เขียนโดย เซียวอี้ซาน
เรียบเรียงคำพูด-ถ่ายทอด โดย มารพิณ
จุดจบโชห่วย
ผมโตมากับร้านโชห่วย
คุณตาผมเคยมีร้านโชห่วยอยู่ต่างจังหวัด
เข้าใจดีถึงความลำบากของธุรกิจแบบนี้
หลายคนบ่นว่าขายของชำ
หรือทำโชห่วยปัญหาอยู่ที่กำไรหายาก เงินจม
ไอ้นั่นก็จริง
แต่ว่าก็ว่าเถอะ ไอ้ที่ยากกว่าก็ตรงที่
โปรดักต์มีรายละเอียดเยอะ
ทำนองว่า ซอสพริกยี่ห้อนี้ซื้อ
2
แถม
1
แต่ขวดที่แถมเป็นขวดเล็กวางอยู่ที่ชั้นหลังเก๊ะเก็บเงิน
ส่วน ขนมหลอกเด็กยี่ห้อนั้นแถมสติ๊กเกอร์ดารา
ไอ้สติ๊กเกอร์นั่นจะวางอยู่ในเก๊ะใต้กล่องถ่านไฟฉาย
น้ำอัดลมถ้าเอาขวดไปด้วยคิดเพิ่มขวดละกี่บาท
แต่ขวดอีกแบบที่อยู่ในตู้แช่เป็นขวดวันเวย์ขายทั้งขวดเลยไม่ต้องคืน
แต่ถ้าใส่ถุงใส่น้ำแข็งคุณก็ต้องรู้วิธีเอาเชือกฟางมามัดถุงให้หิ้วได้
ส่วนสบู่ตรานกแร้งเนี่ย
ถ้าเอาซองเปล่ามาแลกด้วยจะได้ลดอีกตั้งสองบาทแน่ะ
พอรับมาร้านเราต้องเก็บซองเปล่านี้เอาไว้แลกเป็นเงินคืนกับรถของเซลล์ที่จะแวะมาร้านทุกๆ
วันที่ 18
ของเดือนตอนบ่าย
ยุ่งยากมั้ยล่ะ
ละเอียดมั้ยล่ะ ...
จุดตายของร้านโชห่วยคือ
พนักงานร้านต้องเก่งมาก
ถึงจะเอาอยู่มือได้
ดังนั้นเถ้าแก่ร้านโชห่วยเลยสืบทอดให้กับทายาทได้ยาก
จะเทรนลูกจ้างก็ลำบาก
แต่ร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่เขาใช้บาร์โค้ดมาแทน พนักงานไม่ต้องรู้อะไรมาก ยกบาร์โค้ดส่องแล้วจิ้มไปก็จบเรื่อง แก้ปัญหาทักษะฝีมือไปได้แบบจบเรื่อง
กฏหมายเหล้าฆ่าร้านโชห่วย
ตอนหลังห้ามแยกซองบุหรี่ขาย
ห้ามขายเหล้าเวลานั้นนี้
กฏหมายตรงนี้เร่งให้ร้านโชห่วยตายเร็วขึ้นเพราะตัดกำไรที่เหลือสองอย่างออกจากวงจร
น่าตลกที่กฎหมายนี้ไม่ได้ลดเหล้าลดบุหรี่อย่างที่หวังกัน
แต่มีผลทำให้ร้านโชห่วยเมืองไทยถึงจุดจบไวขึ้น
ซ้ำร้าย
รสนิยมสาธารณะของผู้คนในสังคมเปลี่ยนไป
กระชากโครงสร้างค้าขายแบบเดิมจนหมด
ไม่มีที่จอดรถ ลูกค้าไม่มีทางเลือก
ไม่มีสินค้าหลากหลายให้ดู
ร้านเข้ายากออกยาก
เบียดลังซีอิ้วคลุกฝุ่น
แถมสองเดือนผ่านไป
ไอ้ลังเวรกรรมอันนั้นก็วางแหมะอยู่ที่เดิม
เป็นปัญหาสต็อกของและอาการเสียดายที่เป็นงูกินหางไม่รู้จบสิ้น
เทียบได้ว่า บริษัทกับร้านใหญ่ๆ
มีปัญหาบริหารสต็อคหรือสินค้าคงคลัง
แต่ร้านเล็กๆ มีปัญหาของเสียดาย
เช่น ของแถมครีมอาบน้ำเมื่อสองปีก่อน
หรือมี สินค้า “ได้มาถูกพิเศษ"
แต่ลืมคิดไปว่ามันก็
"ขายยากพิเศษ"
เหมือนกัน
ของที่เคยขายดีสุดชีวิตเมื่อสามปีก่อน
แต่ตอนนี้ไม่มี(สุนัข)ที่ไหนสนใจแล้ว
แต่เสียดายไม่กล้าโล๊ะทิ้ง
ให้ตายสิ!
ในทางกลับกัน
ฝาร้านมอมๆ
ที่ทาสีครั้งสุดท้ายเมื่อเกือบสิบปีก่อน
กลับมีรูปรับปริญญาของลูกชายลูกสาวสุดเลิฟใส่กรอบหรูติดเรียงรายข้างฝา
เชื่อมั้ยครับว่า
ธุรกิจอื่นยังบ่นลูกหลานว่า
ไม่มีคนไหนจะมาสืบทอดกิจการ
แต่พอถึงเคสร้านโชห่วย
ผมว่า มีน้อยร้านมากที่อยากให้ลูกหลานตัวเองมาทำต่อ
แล้วแบบนี้จะรอดยังไงกันละเนี่ย
รวมลิงก์หนังสือมารพิณ
ดู หน้ารวมข้อมูลเที่ยวเอง-backpack-แบกเป้
ภาษาอังกฤษร้ายสาระ
Snake Fish Fish อังกฤษเที่ยวนอก
คู่มือสนทนาภาษาจีนฉบับ จิ้มชี้เที่ยว
รวมหนังสือที่เขียน(ท่องเที่ยว+ภาษา)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]
ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
© สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ