โดย มารพิณ
แวะเที่ยว หน้ารวมข้อมูลเที่ยวเอง-backpack-แบกเป้
พม่า
-
เมียนมาร์
(Myanmar)
พม่าอาจจะดูเหมือนเป็นทางตันในปัจจุบัน
แต่ความเห็นของผมคือน่าจะเป็นที่เที่ยวสำคัญในอนาคต
และเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมโยงผู้คนนับล้านเข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ พม่ามีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย
ทั้งโบราณสถาน ภูเขา วิว
ทิวทัศน์ วัดวาอารามและเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร
หลากหลายวัฒนธรรมและชนกลุ่มน้อย
เทือกเขาสวยงาม
มีแม้แต่ภูเขาหิมะทางตอนเหนือของประเทศที่พรมแดนติดทิเบต
ช่วงเวลาที่เหมาะไปเที่ยวพม่าคือ
ปลายเดือนตุลา ยาวไปถึงเดือนกุมภา
แต่เดือนที่ไม่เหมาะเลยก็คือ
เมษาและพฤษภา
เพราะอากาศของพม่าในช่วงหน้าร้อนนั้นร้อนกว่าบ้านเรามาก
ในเมืองท่องเที่ยวอย่างมันดาเลย์
หรือพุกาม อาจพุ่งสูงถึง
40
องศาเอาได้
(ส่วนในปลายเดือนพฤษภา
มิถุนา และกรกฎามีฝนชุก)
พอเจออากาศร้อนแบบนี้
บางคนอาจคิดว่าเปิดพัดลมหรือแอร์สิ
แต่เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า
รัฐบาลพม่ากำลังมีปัญหาเรื่องจ่ายไฟฟ้าให้ประชาชนไม่เพียงพอ
อย่าว่าแต่นอกเมืองเลยครับ
ใจกลางเมืองย่างกุ้งไฟยังดับๆ
ติดๆ จนร้านค้าในเมืองต้องมีเครื่องปั่นไฟกันทุกร้าน
ปัญหาก็มีอยู่ว่า ถึงเรานอนห้องแอร์
แต่ถ้าไม่มีไฟก็ไม่ต่างอะไรกับห้องธรรมดาหรอกครับ
ถ้าใครมาเที่ยวกับทัวร์นอนโรงแรมใหญ่ที่เขาจัดให้อาจไม่เคยรู้ถึงปัญหานี้
เผลอๆ จะมองอย่างชื่นชมว่า
ชาวพม่าเขาใช้ชีวิตเรียบง่าย
ไม่ฟุ้งเฟ้อ สงบสันติ
แต่ถ้าได้ไปสัมผัสลงลึกจริงๆ
จะทราบว่า คนพม่าทั้งยากจนทั้งแร้นแค้น
และพอเขาคุยไว้ใจเราแล้วจะชวนเราด่ารัฐบาลทหารทั้งวัน
ข้อดีอีกอย่างของการเที่ยวพม่าคือเวลาช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง
ดังนั้นถึงความรู้สึกของเราคิดว่าตื่นสาย
เช่นตื่นเจ็ดโมงเช้าตามที่ชินจากไทย
แต่นี่ก็ยังเร็วกว่าเวลาพม่าที่อยู่ที่หกโมงครึ่ง
อิอิ เรียกว่า ตื่นสายแต่ยังไม่สาย
ว่างั้นเถอะ
อาหารพม่าคล้ายอาหารไทยภาคกลาง
แต่หนักเค็ม และไม่เผ็ดเท่า
แถมนิดนึงว่าเงินพม่าถึงจะเขียนว่า
Kyat
แต่อ่าน
จั๊ต ครับ
อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญที่สุดของการท่องเที่ยวพม่า
ก็คือ รัฐบาลพม่าเองที่ออกวีซ่ายาก
บางช่วงที่มีเหตุการณ์ไม่สงบ
ก็แทบจะไม่ออกวีซ่าให้นักเดินทางอิสระสไตล์แบ็คแพ็คเกอร์เลย
เพราะกลัวว่าจะมีนักข่าวฝรั่ง
หรือคนทำงานให้นักข่าวฝรั่งแอบปนเข้าไป
ดังนั้นก่อนจะวางแผนเที่ยวพม่าอย่างจริงจังให้จัดการเรื่องวีซ่าให้ผ่านเรียบร้อยโรงเรียนหม่องเสียก่อน
เคล็ดลับสำคัญของนักเดินทางเที่ยวพม่า
ไม่ว่าจะไปกับทัวร์หรือจัดทริปไปเองแบบแบ็คแพ็คเกอร์ก็คือ
ต้องซ้อมฝ่าเท้าก่อนไป
เพราะทุกวัดที่ต้องไป
มักจะต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ทางเข้าวัด
และเราจะต้องเจอสารพัดพื้นผิว
ไม่ว่าจะเป็นดินเลอะๆ
ซีเมนต์ร้อนๆ หินอ่อนเย็นๆ
แกรนิตแผ่น กระเบื้อง ฯลฯ
รวมทั้งอย่าลืมเอารองเท้าแตะดีๆ
ไป เพราะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของพม่าคือวัด
และทุกวัดเราต้องถอดรองเท้า
ดังนั้นถ้าเป็นรองเท้าผ้าใบ
จะให้ถอดเข้าถอดออกตลอดทั้งวันคงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ
นอกจากนี้อย่างงว่าทำไมขึ้นรถบัสพม่าเดินทางไกลเขาจะแจกแปรงสีฟัน
ที่นี่มีจุดแวะแปรงฟันตามทางด้วยครับ
สุดยอดประสบการณ์จริงๆ
อีกเรื่องที่ไม่เหมือนที่อื่นในโลกคือ
พม่าจะใช้ชื่อพ่อมานำหน้าชื่อเราเหมือนเป็นนามสกุล
ดังนั้นอย่าแปลกใจที่เวลากรอกแบบฟอร์มบางอย่างจะมีเขียนเหมือนให้กรอกชื่อพ่อของเราลงไป
พม่าไม่ได้หาเรื่องเราหรอกครับ
มันแค่ธรรมเนียมของเขาเอง
ตัวอย่างเช่นนางอองซาน ซูจี
ที่เอา “อองซาน” มานำหน้าก็เพราะ
พ่อของเธอชื่อ อู อองซาน
ครับ
โอย...เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับพม่ามีเต็มไปหมดครับ
ต้องไปเห็นเองเที่ยวเองจะดีกว่าครับ
เล่าไม่หมดแน่นอน
ฝอยมานานแล้วว เรามาดูเส้นทางที่น่าสนใจในการไปเที่ยวพม่าดังนี้
เส้นทางย่างกุ้ง - พะโค - ไจ๊ทิโย
อนาคตเส้นทางจากไทยไปพม่า เข้าอินเดีย
ไปกะลอว์และทะเลสาบอินเล
เส้นทางจากตองยีไปเชียงตุง
เส้นทางมัณฑะเลย์และพุกาม
เส้นเฉียดฑิเบต เข้ายูนนานจากพม่า
สายใต้ไทย กาญจน์ไปทวาย (เส้นทางอนาคต)
จอง-ค้นหาที่พัก Agoda
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]
ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
© สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ