วันพฤหัสบดี, มีนาคม 07, 2556

รวมเส้นทางเที่ยวเวียดนาม (Vietnam)



โดย มารพิณ

  www.facebook.com/marnpinbook
แวะเที่ยว  หน้ารวมข้อมูลเที่ยวเอง-backpack-แบกเป้

เที่ยวเวียดนาม (Vietnam)

เวียดนามเป็นประเทศใกล้เมืองไทยที่ไปเที่ยวได้สะดวก ราคาประหยัดเพราะค่าครองชีพไม่โหดมาก มีเที่ยวบินโลว์คอสต์บินไปลงมากมาย และไม่ต้องเสียค่าวีซ่า ดังนั้นจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ ผู้คนทั่วไปใช้ภาษาอังกฤษได้ดีและเต็มใจติดต่อกับคนต่างชาติ ปัญหาเรื่องหลอกลวงมีอยู่บ้าง เวลากินอะไรควรถามก่อนว่าราคาเท่าไหร่ ระมัดระวังไว้ก็ดี

แต่ใครที่วางแผนไปเที่ยวเวียดคงต้องหยิบแผนที่ขึ้นมาดูกันก่อน เพราะเป็นประเทศที่ยาวมาก แบ่งเป็นสามโซนใหญ่คือ เหนือ กลาง ใต้ โดย เวียดนามเหนือมีศูนย์กลางอยู่ที่ฮานอย, เวียดนามกลาง - เว้, เวียดนามใต้ -โฮจิมินห์ (ไซ่ง่อน) จากเหนือจรดใต้ห่างไกลกว่าสามพันกิโลเมตร ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไม่มีเวลามากเหมือนฝรั่ง มักจะแยกเที่ยวโดยตัองตัดใจเลือกเอาโซนใดโซนหนึ่งไปเลย

สำหรับใครที่เคยไปเวียดนามครั้งแรกอย่าเพิ่งงง ที่ตม.เวียดนามจะปั๊มตราเข้าเมืองที่หน้าสุดท้ายของพาสปอร์ตเสมอ และก็เป็นธรรมเนียมของเกสต์เฮาส์ที่จะเก็บพาสปอร์ตเราไว้กรอกข้อมูลส่งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของเขา สมัยเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนเวลาใครไปพักที่ไหนต้องไปรายงานตัวด้วยตัวเองที่สถานีตำรวจด้วยซ้ำ พาสปอร์ตพวกนี้เขาจะคืนเราเมื่อเช็คเอาท์ออกจากที่พักครับ

เวียดนามยังทำให้นักท่องเที่ยวงงในเรื่องชื่อสถานที่และที่พัก เพราะที่นี่บ้าตัวเลขมาก โดยเฉพาะตัวเลขที่เป็น “บ้านเลขที่” เช่น ร้าน Pho 125 จะหมายถึงร้านเฝอ เลขที่ 125 ส่วนถนนอะไรก็ว่าไปอีกอย่าง ชื่อโรงแรม ชื่อเกสต์เฮาส์ก็มักจะมีการตั้งชื่อคล้ายๆ กันเช่น Prince 79 กับ Prince 57 สองโรงแรมนี้เจ้าของเดียวกัน แต่แห่งแรกอยู่เลขที่ 79 ถนน Hang Bac และอีกโรงอยู่เลขที่ 57 ถนน Hang Be สองที่นี้อยู่คนละแห่งกัน แถมนอกจากนี้ยังมีโรงแรมชื่อ Prince เฉยๆ อีกต่างหาก ดังนั้นเวลา ที่บอกแท็กซี่ว่าจะไปลงที่ไหน ตั้งสติบอกไปให้ชัดๆ ว่า โรงแรมอะไร ถนนอะไร บางทีแท็กซี่มันส่งเราผิดโรงแรมอาจจะไม่เกิดจากเจตนา แต่เพราะว่ามันเข้าใจว่าเราหมายถึงอีกแห่งก็เป็นได้

ขณะเดียวกัน ชื่อถนนตามเมืองต่างๆ ของเวียดนามก็จะตั้งซ้ำๆ กัน เช่น ถนน Le loi หรือเดี๋ยนเบียนฝู ที่มีแทบทุกเมือง ถนนฟามหงูเหลาที่เป็นย่านพักของแบ็คแพ็คเกอร์ที่โฮจิมินห์ซิตี้ ก็มีถนนฟามหงูเหลาเนี่ยที่เมืองเว้ด้วยเหมือนกัน แถมยังเป็นที่พักของแบ็คแพ็คเกอร์อีกด้วย ให้ตายสิ

แล้วที่งงยิ่งกว่านั้นคือ ภาษาเวียดนามยังมีสามสำเนียงหลักคือ เหนือ กลาง ใต้ เวลาเราถามชื่อเมือง แต่ละสำเนียงก็ออกเสียงสถานที่ไปคนละแบบ อย่างชนิดไม่มีใครยอมเชื่อใคร

นอกจากนี้ สำหรับสายตาคนไทย จะมองว่ารถเวียดนามจะขับกันช้ามาก เวลาขึ้นรถโดยสารแต่ละคัน ชาวไทยที่ชินกับโชเฟอร์ตีนผีจะรู้สึกกลุ้มใจว่าทำไมไม่ขับกันให้เร็วกว่านั้น 

นอกจากนี้เวียดนามจะมีระบบรถบัสสำหรับนักท่องเที่ยวที่พิเศษแปลกใคร ไม่เหมือนประเทศอื่นคือ ตั๋วแบบ Open tour ที่เหมือนซื้อเหมาการเดินทางจากเหนือจรดใต้ หรือใต้ขึ้นเหนือ ตามแต่ต้องการ ซื้อจากตัวแทนท่องเที่ยวเจ้าใหญ่ๆ อย่าง Sinh Café เป็นต้น เวลาเดินทางไปแต่ละจุดก็เอาตั๋วไปแสดงล่วงหน้าเขาจะจัดเที่ยวรถให้เดินทางไปเรื่อยๆ ตั๋วแบบนี้มีราคาถูกมากเพราะมันเป็นแบบเหมาและมีระบบรองรับที่ซับซ้อนที่รถบัสจะได้ตังค์จากเกสต์เฮาส์ที่รถไปจอด แต่บางทีก็มีปัญหาในการใช้งานได้ และดูจะเหมาะกับคนที่เที่ยวเดินทางในเวียดนานๆ มากกว่าจะไปแค่อาทิตย์เดียว


ต่อไปนี้คือลิงก์ข้อมูลวางแผนเส้นทางเที่ยวประเทศเวียดนามครับ

จองที่พักในเวียดนาม

ฮานอย – ซาปา เส้นทางเที่ยวเวียดนามเหนือ

เส้นทางชนกลุ่มน้อยเวียดนามเหนือ

จากลาวไก(ซาปา)ไปคุนหมิง

ไปเที่ยวอ่าวฮาลองเบย์

เส้นทางเที่ยวเวียดนามภาคใต้

เที่ยวรอบเมืองโฮจิมินห์ (ไซ่ง่อน)

เลียบชายฝั่ง โฮจิมินห์ – ฟานเทียต - หาดหมุยเน๊

จากที่ราบสูงเวียดนามเข้าลาวใต้ทางอัตตะปือ

เที่ยวเวียดนามหลายภาคพร้อมกัน

นั่งรถไฟจากเวียดนามไปเมืองจีน ไปปักกิ่ง หนานหนิง

จอง-ค้นหาที่พัก Agoda 


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ