วันเสาร์, กันยายน 24, 2559

18ปี Sanook.com. เว็บไทยบรรลุนิติภาวะ

โดย มารพิณ. ยูทูปFeelThai

เมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมเคยมีโอกาสไปร่วมงานคอนเทนท์กับสนุกดอทคอมในสมัยที่บริษัทเอ็มเว็บจากแอฟริกาใต้มาซื้อกิจการ เว็บสนุก จนกลายเป็นข่าวพาดหัวครั้งใหญ่ของวงการไอทีไทย ในสมัยนั้น

นับเป็นครั้งแรกอย่างจริงจังที่ มีการเห็นว่าเว็บและแบรนด์เว็บ เมืองไทยมีมูลค่าขึ้นมา เป็นครั้งแรกที่ url หรือที่อยู่บนเว็บมีมูลค่า ไม่ต่างจาก real estate ที่ดินโฉนด หรืออาคาร ที่สมัยนั้นกำลังบูมอย่างหนัก

อินเตอร์เน็ตและเว็บ ที่คนเคยเปิดดูข้อมูลต่างๆ และถูก มองว่าเป็นเรื่องใหม่หวือหวา มีแต่เด็ก นักศึกษาหรือพวกเนิร์ดเล่น

สมัยนั้นคนทำ content ในเว็บเหนื่อยมาก ที่เหนื่อยไม่ใช่ตัวงาน. แต่เหนื่อยที่จะอธิบายว่าเราทำอะไร

อย่างแรกถึงแม้คนดูจะมีจำนวนมหาศาลแต่ก็ยังมีคนตั้งคำถามว่า คนดูเยอะจริงหรือ. พวกบ้าคอมมีไม่กี่คนหรอก. มีแต่เด็กดู  หรือกลุ่มไม่มีกำลังซื้อ.

ทางด้านโฆษณา กว่าจะขายได้ ต้องอธิบายแล้วอธิบายอีกเหมือนเปิดคอร์ส วิชาออนไลน์ ว่า page view คืออะไร unique visitors คืออะไร ip คืออะไร. รวมทั้งอื่นๆอีกมากมาย

ในแง่สื่อใหม่ เวลาไปงาน มี มีหลายองค์กร ที่ไม่เชิญเว็บ หรือแม้แต่งานเปิดสาธารณะก็ไม่ให้เว็บเข้า ไม่เป็นไรครับเราก็ ดูงาน จากข้างนอกได้   บางงานเชิญเว็บในฐานะเป็นสื่อใหม่ ให้ร่วมงานแถลงข่าว แต่ทุกครั้งที่จะขอสัมภาษณ์ผู้บริหาร ก็มักจะถูกปฏิเสธ

หลายองค์กรก็งงในวิธีการทำงานของเราว่า. ช่างภาพอยู่ไหน . กล้อง digital คืออะไร มันละเอียดพอเหรอ. ในเมื่องานของเราไม่ได้ ต้องการความละเอียด ของภาพเหมือนสิ่งพิมพ์  เราทุกคนก็รับบทบาท หน่วยรบพิเศษทุกคนทำได้ในคนเดียว. เวลาไปไหนไม่ต้องแห่ไปหลายคนเหมือนสื่ออื่น

ต้องใช้เวลาอยู่นาน. กว่าที่  content ออนไลน์จะได้รับการยอมรับว่ามีบทบาท ไม่แพ้ content บนกระดาษ หรือบนคลื่นความถี่ในรูปทีวีวิทยุ  แต่ก็ยังถูกตีตราว่าเป็นสื่อใหม่  เป็นเรื่องใหม่

สายบันเทิงและท่องเที่ยวดูจะได้รับการยอมรับ มากกว่า วงการฯอื่น. โดยเฉพาะททท หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ต้องขอ บันทึกไว้ตรงนี้ว่าเป็นหนึ่งในองค์กรแรกๆ ที่ยอมรับสื่อเว็บ

สมัยก่อน ถึงเราจะมีข้อมูลในมือ ชัดเจนจากสถิติ server ว่ามีคนเข้ามาอ่านมาดูข้อมูลมากมายแค่ไหนต่อวัน. แต่ข้อมูลพวกนี้  มักไม่ได้การยอมรับ พูดง่ายๆ คนอื่นยังไม่เชื่อว่ามีคนอ่านหรือคนดูออนไลน์เยอะมาก ขนาดนั้น

ก็คงเพราะเราเป็นสื่อใหม่ เป็นสื่อออนไลน์  เป็นแค่ช่องทางใหม่ ในการสื่อสารข้อมูล

ซึ่งในสมัยนั้น ก็คงไม่แปลกอะไร ผมก็เข้าใจดี เพราะเคยทำสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนังสือพิมพ์รายวันมาก่อน บอกลูกน้องว่า.  บางเรื่อง เขาไม่ให้ความสำคัญกับเราก็ไม่เป็นไร. เราก็อัด content ไปเรื่อยๆ. เดี๋ยวคนอ่าน เขาก็จะเห็นเราเอง

ที่แปลกก็คือ ตั้งแต่สมัยนั้นจนปัจจุบัน หลายคนละเลย จุดแข็งของ โลกเว็บ โลกอินเตอร์เน็ตตรงที่ ทำออนไลน์ได้เปรียบสื่ออื่น ตรงที่ไม่มีต้นทุนค่ากระดาษ ไม่มีต้นทุนค่าจัดจำหน่ายในการขนกระดาษ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง. ไม่มีต้นทุนค่าสัมปทาน คลื่นความถี่ หรือค่าหัวคิว อื่นๆที่ต้องจ่าย ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

การปฏิวัติดิจิตอลเพิ่งเริ่มขึ้น. คนที่รู้ไกล ถูกมองว่าบ้า. โลกยังติด อยู่ในโลกสื่อยุคเก่า

ถึงแม้ sanook.com เริ่มเติบโตขึ้นตามเวลาที่เปลี่ยนไป คนก็ยังมองว่า เดี๋ยวเว็บก็คงไม่มีใครเข้า เดี๋ยวก็หมดความนิยม เดี๋ยวคนเข้าไปดูอย่างอื่น

เดี๋ยวก่อน.... บางเรื่อง อธิบายไปก็เท่านั้น ให้เวลาพิสูจน์ดีกว่าว่าอะไรเป็นอะไร ในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้นไม่รู้ เพราะโลก digital มันเปลี่ยนแปลงเร็ว. แต่ ในฐานะคนเก่าที่เคยร่วมงาน ครบรอบสนุก 18 ปี เป็นบทพิสูจน์ ว่าสื่อออนไลน์ เป็นสื่อที่จีรังยั่งยืนและเติบโตต่อเนื่องมาตลอดเวลาที่ผ่านมา

ถ้าใคร ตามสถานการณ์ให้ดีจะเห็นว่า คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ ในช่วงเดือนเดียวกับที่ สนุกดอทคอมฉลอง ครบรอบ 18 ปี  จะเป็นช่วงเดียวกับที่ สื่อกระดาษหลายเจ้า ทยอยประกาศปิดตัวลง หรือเตรียมย้ายร่างสู่ออนไลน์  เพราะสู้ค่ากระดาษและการจัดจำหน่ายไม่ไหว

และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เดือนนี้ประเทศไทยจะมี กระทรวงใหม่ที่ชื่อ digital economy. ทั้งหมดเป็นคลื่นการเปลี่ยนแปลง หลายหลายระลอกที่มาบรรจบกัน ในยุคการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลที่ทุกองค์กรจะต้องเผชิญ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ สื่อกระดาษจะยุติบทบาทใน ฐานะสื่อหลักของสังคมไทย ข้อจำกัดเรื่องยอดพิมพ์  ต้นทุนกระดาษ ในประเทศ. และการล่มสลายของระบบสายส่งและจัดจำหน่าย จะทำให้ ถูกลดบทบาทลงเป็นสื่อรอง. และสื่อนีชเฉพาะกลุ่ม

สื่อเว็บสื่อออนไลน์  เว็บพอร์ทัล เว็บบอร์ดพันทิพ(เดือนหน้าจะครบ 20ปี) บลอกเกอร์ และแชนแนล youtube รวมทั้งเพจใน facebook จะกลายมาเป็นสื่อหลัก ที่เข้าถึงผู้คนแทน

18 ปีนี้มีความหมายอย่างไรลองนึกภาพดูว่า
ถ้าเมื่อ 18 ปีที่แล้ว มีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเวลานี้เด็กคนนั้นก็จะบรรลุนิติภาวะ ในปีนี้

และถ้าเมื่อ 18 ปีที่แล้ว มีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งอายุ 18 ปี ในปีนี้ ก็จะมีอายุ 36 ปี เป็นพ่อหรือแม่ เป็นกำลังหลักของครอบครัว

ผมยังแปลกใจที่จนกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ยังได้ยินคนพูดว่า เว็บเป็นสื่อใหม่ สื่อออนไลน์เป็นสื่อใหม่  เป็นเรื่องใหม่  ทั้งทั้งที่สื่อออนไลน์ อยู่มากับสังคมไทย ไม่น้อยกว่า 2 ทศวรรษ

ไม่แน่ใจว่าช่วงเวลา 18 ปีที่ผ่านมา พวกเขาไปอยู่ไหนถึงไม่เห็นปรากฏการณ์ เปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง. ถึงยังเรียกโลกออนไลน์ว่า สื่อใหม่

ในวินาทีนี้ เวลาปัจจุบันนี้ สนุกและเว็บหลักอื่นๆมีทุกอย่างที่สื่อหลักมีไม่ว่า content ทั้งที่เป็นข้อความ หรือเป็น rich media อย่างทีว ีวีดีโอ คลิป แม้กระทั่งเพลงอย่างแอพพ์Joox
ที่จะปฏิวัติวิธีการฟังเพลง ของคนไทย ใน อนาคต ต่อไป. สถานี วิทยุ ที่อยู่ในรูปคลื่นความถี่อาจจะไม่มีความหมายอีกต่อไป รวมทั้งทีวีดิจิตอล ที่กำลังเผชิญสถานการณ์ย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ ทั้งยอดความนิยมและสภาพเศรษฐกิจ

สื่อสิ่งพิมพ์สื่อทีวี และสื่อวิทยุ จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ในอินเตอร์เน็ต และ social media

อนาคตอยู่ที่ออนไลน์ ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ตอนนี้สื่อเว็บและสื่อออนไลน์ บรรลุนิติภาวะแล้ว

เราไม่ใช่สื่อใหม่  แต่เป็นสื่อ ที่ปรับตัว และอยู่ปักรากลงฐาน มากว่า 2 ทศวรรษ และนับจาก นี้ไปจะเป็นสื่อหลัก ของสังคมไทยอย่างเต็มรูปแบบ

ก็ขอให้ ทีมงาน ที่ทำสนุกดอทคอม ในวันนี้ แล้ววันวาน ทั้งคนก่อตั้ง.  คนเก่าที่ผมเคยรู้จักและคนใหม่ที่ไม่มีโอกาสได้พบเจอ ได้ทำงาน มุ่งหน้าผลักดันสื่อออนไลน์ เมืองไทยต่อไป ทั้งในที่ sanook.com เองและในที่อื่น ตามทิศทางและวิถีโคจร ที่พวกเราแยกย้ายกันไป

18 ปี sanook ผ่านไป บรรลุนิติภาวะแล้ว. อนาคตคง #สนุกกว่า

ปล. ตลอดเวลาที่เขียน นั่งฟัง Joox ไปด้วย