วันจันทร์, กันยายน 29, 2557

ปูทะเลบ้านอีต่อง เหมืองปิล็อค

ปูผัดผงกะหรี  ซีฟู๊ดกลางป่าลึกเมืองกาญจน์ ที่ตอนที่ทำท่าจะหาทานยากแล้ว

โดย มารพิณ

มีข่าวร้ายมาฝากครับสำหรับคนที่ชอบทานอาหารทะเล ก็ด้วยเหตุว่างานนี้ แหล่งอาหารทะเลที่เคยขึ้นชื่อของเมืองกาญจน์ว่า ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนเหตุเพราะว่า มีทำเลที่กิน อยู่กลางป่าลึกถึงบ้านอีต่อง ตรงเมืองปิล็อกเก่าโน่น 


หน้าตาปูพม่าผัดผงกะหรี่เนื้อหวาน

เมื่อไม่กี่ปีมานี้เป็นที่เล่าขานกันจนสร้างความฮือฮาในหมู่นักเดินทางว่า. การมาเที่ยวเมืองกาญจน์ นอกจากจะมาที่เมืองปิล็อก นอนบ้านอิต่องเพื่อที่จะเดินทางขึ้นชมวิวเขาช้างเผือกแล้ว. ยังมีความแปลกใหม่ของเมนูอาหารทะเลที่หลายร้านอาหารใน หมู่บ้าน อย่างเช่น ครัวสุดแดนหรือร้านเจ๊นี ออกมาขายนักท่องเที่ยวกันเช่น ปูผัดผงกะหรี่  กุ้ง ปลา ต่างๆมากมาย 

บางคนอ่านมาถึงตอนนี้แล้วก็คงสงสัย  อยากทราบว่ากาญจนบุรีจากอาหารทะเลมาจากที่ไหนไม่ได้สั่งไปจากมหาชัยแม่กลองหรือยังไง

จะตอบตรงนี้ต้องไปดูที่แผนที่ภูมิศาสตร์ครับเพราะว่า. ชายแดนไทยกับพม่ามีภูเขาสูง กั้นพรมแดน บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อกที่ชายแดนกาญจนบุรีในเขตอำเภอทองผาภูมิ
พอเลยเขตแดนที่กันเข้าไปนิดเดียวไม่ถึง 100 กิโลเมตร ก็จะถึงชายทะเลในเขตพม่าซึ่งตรงนั้นก็คือทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอลในเขตของมหาสมุทรอินเดีย  ซึ่งเป็นทะเลเดียวกันที่ยาวต่อไปถึงจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ของบ้านเรา
จุดแดงๆ  บนแผนที่คือพิกัดที่ตั้งของบ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก สีฟ้าซ้ายมือคือผืนน้ำของทะเลอันดามัน 

ความใกล้ทะเลแบบนี้ก็เลยเป็นสาเหตุให้มีอาหารทะเลนานาชนิด ทะลัก เข้ามาที่นี่โดยเฉพาะปูทะเลขึ้นชื่อมาก จนมีขึ้นป้ายไว้เป็นคำขวัญเลยว่าปูทะเลอันดามัน


บน-คลิปปูทะเลเมียนมาร์ผัดผงกะหรี

แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปครับ ที่ผมคุยล่าสุดกับทางร้านค้าที่อยู่ในบ้านอีต่อง เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ทางพม่ามีห้องเย็นและมีหลายชาติไปตั้งห้องเย็นรับซื้อสินค้าทะเลสินค้าประมงมาจากท่าเรือ โดยตรง. มาในตอนนี้ก็เลยไม่ค่อยจะมีของเรียกว่าหายาก หาทานไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ถึงแม้จะจองล่วงหน้าก็ใช่ว่าจะได้มา

พอเจอสถานการณ์แบบนี้  ตอนนี้หลายร้านก็เลยปรับเมนูอาหารทะเลออกไปหรือมีเมนูปูอยู่แต่ท่าทางจะไม่มีของ

ดังนั้นตอนนี้ถ้าเกิด ใครที่วางแผนจะ ไปเที่ยวบ้านอิต่องไปดูเหมืองปิล็อกหรือเดินทางขึ้นเขาช้างเผือก  ไม่ควรคาดหวังอะไรมากว่าจะได้ อาหารทะเลซีฟู๊ดหรือปูทะเลมาทาน

ตอนที่ผมไปโชคดีมากมีปูเข้ามาพอดีทางร้าน เจ๊ณีเค้าบอกว่าไม่ได้มาบ่อย พอดีมีคนสั่งล่วงหน้าพอดี.    ก็เลยได้ทานปู พอได้หายอยากครับ นึกว่ามาคราวนี้จะผิดหวังเสียแล้ว 

วันอาทิตย์, กันยายน 28, 2557

ความบอบช้ำของกล้องคู่ใจ

โดย มารพิณ

วันนี้พอว่างจากการเดินทาง พักอยู่ที่อำเภอสังขละบุรีมีโอกาสได้หยิบกล้องที่ใช้งานประจำขึ้นมาดู.   เห็นแล้วก็ต้องสยองใจก่อนหน้านี้ตอนต้นเดือน. เห็นแล้วว่ามันหล่น หลายครั้ง.  พอจะรู้อยู่ว่ามันเป็นรอย แต่ว่าไม่ได้ หยิบขึ้นมา ดูให้ละเอียดว่า อาการขนาดไหน

โหดโหดที่เห็นในรูปนั่นล่ะครับ ผลงานความซุ่มซ่ามของผมเอง

ที่ผ่านมาคงโชคดี ที่ไม่เป็นอะไรมาก นอกจาก จะฝาก ร่องรอย บอบช้ำ ไว้บนผิวโลหะ สีเงิน ที่ครอบตัวเลนส์

แต่วันหน้าล่ะ. บนเส้นทางการเดินทางที่สมบุกสมบัน กล้องในมือผม คงไม่โชคดีขนาดน้ี ไปได้อีกนาน ้ เพราะไอ้ สามสี่รอย ที่เห็น อย่างในภาพ ก็คือการหล่นลงฟาดพื้นอย่างจัง ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็คงจะไม่มีสตางค์ซื้อใหม่ในช่วงนี้

ขอให้กล้องโชคดี  ขอให้ผมโชคดีด้วย !!

วันเสาร์, กันยายน 27, 2557

ข่าวดี ! สะพานมอญสังขละฯ ต่อเข้าหากันแล้ว !

สะพานมอญซ่อมเกือบเสร็จแล้ว  เหลือปูพื้น 10 เมตรสุดท้าย

โดย มารพิณ

ดูคลิปการเดินทาง  www.youtube.com/user/feelthai

หลายคนคงอยากทราบว่า สะพานมอญ แหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจของอำเภอสังขละบุรีซ่อมเสร็จหรือยัง หลังจากงานก่อสร้างล่าช้ามานานนับปี  จนตอนหลังได้มีการเลี่ยนมือการก่อสร้างมาเป็นชาวบ้านในพื้นที่ๆ มีประสบการณ์งานไม้ก่อสร้างสะพานเดิม และทหารช่างที่มาช่วยผลักดันงาน

ตัวสะพานในส่วนโครงสร้างต่อเข้าถึงกันแล้วครับ ดังในรูป

มาวันนี้   วันที่ 27 กันยายน 2014. ในที่สุดสะพานมอญที่อำเภอสังขละบุรีจังหวัดที่ถูกน้ำป่าพัดจนพังเสียหายไปบางส่วนเมื่อปีกลาย ก็ได้มีการซ่อมจนเชื่อมเข้าหากันสำเร็จแล้วครับ โดยทหารช่างและชาวมอญที่ สังขละบุรี ได้เริ่มงาน เชื่อมต่อในขั้นสุดท้ายไปบางส่วนแล้วเมื่อวานนี้ และ ในวันนี้ตัวโครงสร้างหลักๆก่อนได้ต่อเข้าหากัน แทบทั้งหมด  

ขั้นต่อไป เหลือแต่รายละเอียดการปูพื้น สะพานและการทำราวสะพานเพื่อความปลอดภัยในการสัญจรอีกในช่วงสุดท้ายประมาณ 10. เมตร เท่านั้น

มาดูคลิปวิดีโอการซ่อมสะพานช่วงสุดท้าย. ถ่ายมาตอนบ่ายวันเสาร์นี้เอง สดๆ   ดูที่คลิป YouTube ด้านล่างตรงนี้เลย

บน-คลิปตอกหมุดเชื่อมโครงสร้างหลักสะพานทั้งสองฝั่งเข้าหากัน ที่เหลือคืองานรายละเอียดครับ 

ส่วนในคลิปนี้และเป็นมุมภาพวิดีโอที่ถ่ายจากด้านล่างเป็นสะพานลูกบวบ มองย้อนกลับไปที่การซ่อมสะพานช่วงสุดท้าย ตรงที่มีโครงเsล็กขนาดเล็กยื่นออกมาจากทั้งสองด้าน


หลังจากที่ผมถ่ายคลิปวิดีโอนี้ได้ไม่นานปรากฏว่ามีฝนตกลงมาอีกคาดว่าวันนี้คงจะยังไม่ได้ปูพื้นคง ต้องรอไปอีกหน่อย

ถ่ายให้เห็นชัดๆ  วันนี้ 27 กย.  งานก่อสร้างประสบความสำเร็จ โดยโครงสร้างหลักต่อเข้าหากันหมดแล้ว เหลือปูพื้น อีกสิบเมตร สุดท้ายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามถือว่าตอนนี้สะพานได้เชื่อมเข้าหากันเรียบร้อยแล้ว. ที่เหลือก็เป็นการเก็บรายละเอียดงานก่อสร้างการตรวจเช็คความเรียบร้อยความปลอดภัยการสร้างราวสะพานการต่อไฟการปูพื้น อะไรต่างๆ

ข้อมูลที่พัก รีสอร์ท สังขละบุรี  http://www.agoda.com/th-th/city/sangkhla-buri-kanchanaburi-th.html?CID=1537143

งานนี้ก็ต้องขอดีใจด้วยกับชาวกาญจนบุรีและชาวสังขละบุรีที่ได้ตัวสะพานมอญซึ่งเป็นเอกลักษณ์สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง


จุดที่กำลังมีการเชื่อมต่อสะพานมอญ รายละเอียดงานไม้ยังต้องเก็บซ่อมอีก แต่ภารกิจหลักเกือบบรรลุแล้ว 

เห็นหมุดเหล็กใหญ่ตรงกลางมั้ยครับ เขากำลังตอกเพื่อผนึกโครงสรี้างไม้ที่ยื่นมาบรรจบกันให้แนบสนิท 

หมุดเชื่อมโครงสร้างไม้ 

ตอกย้ำความสำเร็จของงานก่อสร้างลงไป  

มุมสะพานมอญมองจากด้านล่าง

น่าดีใจกับชาวกาญจน์ทุกคนครับ  ไม้หลัก โครงสร้างสำคัญ ถูกปักหมุดตรึงเข้าหากันหมดแล้ว

ซูมให้เห็นการซ่อมสะพานไม้ หรือสะพานมอญ ตรงจุดที่มีการเชื่อมต่อ 
สองฝั่งสะพานฝั่งอำเภอสังขละฯ และฝั่งวัดวังก์วิเวการามต่อเข้ากันแล้วด้วยเสาค้ำ และไม้่ประกบข้างแผ่นใหญ่

สะพานมอญมองจากสะพานลูกบวบ 

วิวภาพกว้างของสะพานมอญล่าสุดจะเห็นว่าเชื่อมเข้าหากันแล้ว
จอง-ค้นหาที่พัก Agoda 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ

วันพุธ, กันยายน 24, 2557

ค่ารถสองแถวไปบ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก ต้นทางเขาช้างเผือก

เส้นทางเป็นถนนลาดยางผ่านป่า
โดย มารพิณ
ดูคลิปการเดินทาง  www.youtube.com/user/feelthai

วันนี้เดินทางมาจากทองผาภูมิไปชายแดนไทยพม่า ก็เลยเอาข้อมูลการเดินทางด้วยรถสองแถวไปบ้านต่องมาฝากกันครับ เผื่อใครวางแผนไปพิชิตเขาช้างเผือก หรือมาเที่ยวเนินช้างศึก ไปบ้านป้าเกล็น เหมืองปิล็อกกัน
ต้นทางที่ตลาดทองผาภูมิ สองแถวจะอยู่ที่หน้าเซเว่น 
การเดินทางมาที่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก นั่งรถ 2 แถวสีเหลืองจากตลาดอำเภอทองผาภูมิ.   มี 2 เที่ยวต่อวันเที่ยวแรกเวลา 11 โมงเช้า    ส่วนเที่ยวที่สอง ออก เวลาเที่ยงครึ่ง   ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 2ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และน้ำหนักบรรทุกครับ

ที่คิวหน้าเซเว่นจะมีหลายคัน สีเหลืองเหมือนกัน แต่จะไปที่อื่น ไปบ้านไร่ ให้ดูคันที่สาม ถามคนแถวนั้นดูว่าคันไหนจะไปบ้านอีต่อง
คิวรถสองแถวทองผาภูมิ แต่คันี่เห็นนี้ไปบ้านไร่

เส้นทางไปชายแดนเหมืองปิล็อก บ้านอีต่องทางหลวงสาย 3272  ทางลาดยางหมดแล้วแต่จะมี หลุมบ่อของผิวจราจรเป็นบางช่วง    และผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ  ช่วงนั้นจะเป็นป่าเขียว ต้นไม้ครึ้มเลยครับสวยมาก   แต่ถ้าใครขับรถไปเองต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ เพราะหมอกพร้อมจะลงหนา ในหน้าฝนและหน้าหนาว ต้องมีไฟตัดหมอก และทางจะแคบ มีเหลื่อมเลนกันได้ใน จังหวะขับจังหวะเลี้ยว
สองแถวคันไหนไปบ้านอีต่อง ดูง่ายๆ  ครับ มีไฟตัดหมอกดวงโต ติดหราเอาไว้ข้างหน้า

บน-แผนที่ทางไปบ้านอีต่อง จากทองผาภูมิ

ค่าโดยสารรถคนละ 70 บาท  บ้านอีต้องเปนหมู่บ้านเล็กๆในเขา ติดกับชายแดนไทยพม่าอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 1กิโลเมตร  อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีน่าอยู่น่าพักมากครับ

ตอนนี้เดินทางมาถึง ประมาณบ่ายสองโมงกว่า จากอำเภอทองผาภูมิตอนเที่ยงครึ่ง มาถึงได้ที่พัก ที่หน้าไปรษณีย์อีต่อง  ชื่อ อีต่องโฮสเต ย์   ค่าห้อง ปกติ 600 บาท  เขาลดเหลือ  400 บาทต่อคืน  มีห้องน้ำในตัว  มีไวไฟ  ต่อ Internet ได้


ตกเย็นอากาศก็ดูจะเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยเรื่อย    พอกลางคืนก็เริ่มหนาวเลย  (อากาศปลายฝน ปลายเดือนกันยา)

สัมภาระกับข้าวขนกันเต็มไปหมด

บรรยากาศในรถสองแถวไปบ้านอีต่อง  ผมไปช่วงหน้าโลว์ ผู้โดยสารน้อยหน่อย


วิวป่าเขาบนเส้นทาง

จอง-ค้นหาที่พัก Agoda 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ

วันอังคาร, กันยายน 23, 2557

ร้านอาหารที่ถูกที่สุดในดอนเมือง



โรงอาหารนี้ถูกที่สุดในสนามบินดอนเมือง ถูกกว่า ร้านทั่วไปหลายแห่งในกรุงเทพด้วยซ้ำไป

โดย มารพิณ

ดูคลิปการเดินทาง  www.youtube.com/user/feelthai
ที่สนามบินดอนเมืองหรือท่าอากาศยานดอนเมือง  (DMK) นะครับ นอกจากมีร้านหรูๆ  แพงๆ  (หรือไม่หรูเลย  แต่ดันแพง)  เป็นปกติตามสนามบินทั่วไปที่ข้าวของ อาหารในเมนูจะแพงกว่าที่อื่นเยอะ 


แต่มีเคล็ดลับนักเดินทางอยู่ว่า  เมื่อมีคนเยอะ จะต้องมีที่ถูก ที่ไม่แพง   ร้านอาหารที่มีขายข้าวราคาประหยัดก็มีนะครับ เรียกว่าเมจิกฟู้ดพอยท์   Magic Food Point  นะครับ เดี๋ยวผมจะให้ลายแทงไป ว่าจะไปยังไง
ตัวอย่างราคาอาหารที่มีจำหน่าย 


บน-กับข้าวที่ถูกที่สุดในท่าอากาศยานดอนเมือง


ซึ่งอันนี้ก็คือชื่อเดียวกับเมจิกฟู้ดพอยท์ที่เจ้าเดียวกันกับกับที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมินะครับ แต่ของที่สุวรรณภูมิเนี่ยเขาจะหาง่ายหน่อยอยู่ที่ประตูแปด หรือว่า เกท 8  นะครับ  เดินไปสุดเลยก็จะเจอ  

ส่วนของที่ดอนเมืองเนี่ยเขาจะอยู่คนละตัวอาคาร   ไม่ได้อยู่ในอาคารผู้โดยสารขาออกขาเข้าอาคาร 1 นะครับต้องเดินผ่านถนนย้อนไปนิดหน่อยนะครับไปประมาณ 200 เมตร  ขายอาหารก็จะมีราคาถูกกว่าที่อื่น  แต่ว่าที่นี่เนี่ยหลายๆคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน ว่ามีที่กินมีเหมือนโรงอาหารนะครับราคาประหยัดอยู่ ด้วย


  • ไปทานยังไง 
เดี๋ยวผมจะมีคลิปวิดีโออยู่ 2 คลิป นะครับเอาไว้ให้ดูเส้นทางว่าจะเดินจากอาคารผู้โดยสารไปที่โรงอาหารตรงนี้ได้ยังไง  ที่โรงอาหารนี้จะมีพนักงานของสนามบิน  หรือคนที่ทำงานตามสายการบินต่างๆเนี่ยออกไปทานอาหารกันเพราะว่าลำพังเงินเดือนพนักงานนะครับจะให้ไปทานานอาหารที่แพงๆ อยู่ข้างไหนเนี่ยก็คงจะไม่ไหวนะ   เดี๋ยวดูตามคลิปเลยครับจะให้รายละเอียดบอกไว้ว่าจะไปยังไง


บน-วิธีเดินไปโรงอาหารราคาไม่แพงที่สนามบิน จากอาคาร 1


บน- รายละเอียดเส้นทาง


จอง-ค้นหาที่พัก Agoda 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ

วันศุกร์, กันยายน 19, 2557

งานบุญเรือสะเดาะเคราะห์มอญ สังขละบุรี

เรือสะเดาะเคราะห์ลอยลำ ที่สังขละบุรี

โดย มารพิณ

ดูคลิปการเดินทาง  www.youtube.com/user/feelthai
มองหา ข้อมูลที่พัก โรงแรม รีสอร์ท

หน้าเจดีย์พุทธคยา
บรรยากาศที่คนเป็นพันพร้อมใจกันลากเรือไม้ไผ่ พร้อมข้าวของข้างในที่ดูจากสายตาน่าจะหนักรวมทั้งเรือทั้งของเป็นตัน  ผ่านถนน มาลงน้ำที่ท่าวัดวังก์วิเวการาม เป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจ ได้อย่างเหลือเชื่อ

ในเดือนสิบชาวมอญที่อำเภอสังขละ ชายแดนไทย-เมียนมาร์ จะมาลอยเรือสะเดาะเคราะห์ที่นอกจาก ปัดทุกข ปัดโศก พาเคราะห์ไปจากชีวิตตามประเพณีความเชื่อแล้ว ยังมีการลอยเรือตามคติที่เกี่ยวกันกับการอัญเชิญพระไตรปิฏก และศาสนาพุทธนิกายเถรวาถ ข้ามมหาสมุทรอินเดีย มาจากเกาะศรีลังกา

ตำนานนั้นมีหลายกระแส หลากที่มา แต่แก่นใจความมีอยู่ว่า  คณะภิกษุและผู้ติดตามที่กลับจากลังกา มีเหตุให้เจอพายุในอ่าวเบงกอล ก่อนกลับกรุงหงสาวดี ที่สมัยนั้นอยู่ในอำนาจปกครองของชาติมอญ แล้วมีเรือลำที่หายไปในทะเล




ผู้คนก็เป็นห่วง เอาของกินของใช้ใส่เรือออกไปจะช่วย  ตามหา  ร่วมกันสวดภาวนา และท้ายสุดเรือก็นำคณะสงฆ์พร้อมพระไตรปิฏกมาถึงแดนมอญอย่างปลอดภัย

เรือไม้ไผ่ ที่ช่วยกันทำขึ้นมาเป็นทรงเรือ บนแพไม้ไผ่
ก็เลยถือกันเป็นประเพณีว่าทุกปีจะลอยเรือเพื่อช่วยคนยาก คนเรือแตก ประสบภัยทางน้ำ จะได้มีของกินของใช้  สุดแท้แต่เรือจะลอยไปในทิศทางใด

ซึ่งประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ชาวไทยรามัญ อำเภอสังขละบุรี ก็สืบความเชื่อมาตามคตินี้   และที่นี่ ก็จะจัดกันที่บริเวณลานกว้างหน้า เจดีย์พุทธคยา(วัดวังก์วิเวการาม) ตำบลวังกะ
ข้าวของเครื่องใช้ ของกิน ของเซ่นไหว้เอาไปใส่เรือ

โดยทั้งนี้ทั้งนั้น  งานลอยเรือจะมีจัดกันในช่วงคาบต่อ สามวันเต็ม ในช่วงของวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสิบ จะมีการเซ่นไหว้เรือ เอา “ตง”  หรือธง ทำจากกระดาษ ต้นดอกไม้กระดาษสี  ของกินของใช้ ไปใส่เรือ  และอาหารคาวหวาน ๙ อย่าง  นอกจากนี้ ยังมีเล่นสนุกต่างๆ  ปล่อยโคมลอย  ตักบาตรน้ำผึ้ง  น้ำตาล

พิธีลอยเรือฯ ที่วัดวังก์วิเวการาม  จะมีการสร้างเรือจากลำไม้ไผ่  เป็นทรงเรือ แต่ฐานล่างเป็นแพไม้ไผ่  มีสีสันต่างๆ ประดับประดา  แล้ววันขึ้น 15 ค่ำ ก็จะมีชาวบ้านพุทธศาสนิกชนชาวมอญ นำธงสี ต้นกระดาษ มาปัก มาประดับแต่งเรือ  รวมทั้งของเซ่น ของกิน ของใช้มาใส่ อฐิษฐานขอพรสะเดาะเคราะห์   ฟังพระสวด

ธงทิว ต้นกระดาษสี ญาติโยมเอามาประดับเรือทั้งลำ
พอวันแรม 1 ค่ำก็เอาเรือลากไปปล่อยน้ำ พร้อมการละเล่นเฮฮา สนุกตามประเพณี

พอวันสุดท้าย ก็ร่วมกันลากเรือที่มีเครื่องของเครื่องใช้ที่เอาไว้เสมือนให้คนตกทุข์ได้ยาก คนที่เรือแตก แพแตก ประสบภัยทางน้ำ ได้นำของไปจุนเจีอชีวิต หรือใช้สอย  พอลงน้ำ ก็นำเรือไปลอยที่แม่น้ำสามประสบ


ชาวมอญทั้งตำบลพากันนำธง ของเซ่นไหว้มาที่เรือ 
มากันทุกบ้านเลยครับ ที่เห็นถือต้นกระดาษสี กระดาษว่าวมาแต่ไกล อุ้มลูกจูงหลานมา 


กลางคืน เช้ามืดมีนำธง ของไหว้  เผาเทียนเล่นไฟ


ลอยโคมที่หน้าเจดีย์พุทธคยา  ที่เห็นเป็นโคมยักษ์  


ของเซ่นไหว้ตามตำรับมอญ สังขละบุรี

มีทั้งกล้วย ข้าว อาหารต่างๆ  
อธิษฐานขอพร  จุดเทียนธูป ถวายบูชา แต่เช้ามืด


เครื่องเซ่น ธงสี ที่ถวายลงเรือ

ไฟเทียนลุกโชน 

เช้ามืดวันนี้มีการปล่อยโคมไม่ขาดระยะ

ผู้คนเนืองแน่นนำของถวายมาใส่ลำเรือ 
ยามเช้าที่หน้าลานเจดียพุทธคยา สถานที่จัดงาน 




บน-คลิปลากเรือ



บน-ลากเรือลงเนิน



ฟ้อนมอญ โปรยทาน

ช่วยกันลากเรือไปลงน้ำ


คนทั้งตำบลกำลังช่วยลากเรือไปลงน้ำ 

ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มากันหมด

จังหวะลากเรือ ลงเนิน ยากหน่อย ต้องระวังสุดๆ

ฟ้อนมอญริมน้ำ คึกคักสนุกสนาน 

ลากเรือสะเดาะเคราะห์มาถึงริมฝั่งแล้ว  

จังหวะลากจูงลงน้ำ 

เริ่มลงน้ำแล้ว 


กองเชียร์เพียบครับ  หลังจากเอาเรือลงน้ำก็จะมีปล่อยปลากัน 

ผูกเชือกลากเรือ 
เรือของกรมประมงลากเรือสะเดาะเคราะห์ออกจากฝั่ง 

เด็กพายเรือตามมารอเก็บของจากเรือที่ลอย 

ตามมาติดๆ  

จังหวะลากเรือเห็นยอดเจดีย์พุทธคยาอยู่ไกลๆ  

เอาเรือไปผูกไว้กับตอตะเคียน  กลางอ่างเก็บน้ำ เมื่อก่อนสมัยไม่มีเคลื่อนจะปล่อยลอยตามน้ำไปอิสระ

เรือสะเดาะห์เคราะห์ กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม


เรือกรมประมงที่ช่วยลากออกไป 


จอง-ค้นหาที่พัก Agoda 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ