วันอังคาร, ธันวาคม 06, 2554

ปัญหาของการใช้ flammable และ inflammable

โดย มารพิณ
 www.facebook.com/marnpinbook


คำศัพท์ในภาษาอังกฤษและยุโรป  จะมีการเติมหัว เติมท้าย หรือทำอย่างอื่นเพื่อเปลี่ยนความหมาย   ซึ่งเรียกว่า prefix (เติมหน้า)  suffix (วางหลัง)

ทีนี้ วันนี้มี สองคำที่จะต้องเรียนรู้กัน

in-   อันนี้เป็น prefix (เติมหน้า)  ปกติ แปลว่า ไม่  หรือทำให้ความหมายปฏิเสธ  ตัวอย่างก็เช่น
หรือ
ทีนี้มาที่คำตัวที่สองที่จะต้องทราบกัน

-able  คำนี้เป็น suffix (วางหลัง)   ที่พอเติมท้าย ต่อหาง ทิ่มตูด เข้าไปที่ไหนจะทำให้ มีความหมายว่า ทำได้ ทำให้เกิด สามารถที่จะทำอะไรได้

ตัวอย่างเช่น  เรามีคำว่า
  • flame  ออกเสียงว่า เฟล่ม   แปลว่า  เปลวไฟ  ไฟลุก  ลุกเป็นไฟ
ทีนี้ถ้า  flame+able    ล่ะ แบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น  เ

เราก็จะได้คำว่า   flammable  ออกเสียงว่า เฟล้ม หม่ะ เบิ่ล   แปลว่า ติดไฟได้  ทำให้ไฟติดได้ นั่นก็คือ ไวไฟ นั่นเอง  อันนี้ เข้าใจไม่ยาก  อย่าสงสัยว่าตัว e  ท้ายคำว่า flame  หายไปไหน  ก็เพราะมันออกเสียงลำบาก เขาก็ตัดตัว e ไป  (ถ้าคุณเรียนกับสำนักอื่น เขาจะอธิบายว่านี่คือแกรมมาร์ แต่ผมบอกว่าสาเหตุที่มันเกิดกฏข้อนี้ขึ้นมาก็เพราะมันออกเสียงไม่เมหือนเดิม ถ้าค้างเอาไว้  เขาก็เลยตัดมันไป)

แล้วคำถามต่อไป  แล้วถ้า  in+flame+able  ล่ะน่ะ
ปัญหาก็คือ ในภาษาอังกฤษ   prefix (เติมหน้า) In-   มีข้อยกเว้นในกรณีนี้ เท่านั้น

เพราะคำว่า   inflammable     อ่านว่า  อิ่น เฟล้ม หม่ะ เบิ่ล     แปลว่า ไวไฟเหมือนกัน  ที่เป็นเช่นนี้เพราะตัว in- มาจากรากคำอื่น ซึ่งจะไม่ลงรายละเอียด เพราะมันยากไป

สรุป เราดูให้ติดตากันหลงไว้ว่า เวลาข้าวของอุปกรณ์หรือบริเวณที่ฝรั่งมีป้ายบอกทั้งสองคำนี้  ความหมายจะเหมือนกันคือ ไวไฟ ติดไฟง่าย


flammable = ไวไฟ=  inflammable  

เอาเท่านี้ครับ  เป็นข้อยกเว้นกรณีเดียว ที่แม้แต่ฝรั่งเองก็ยังสับสนกันเอง ให้ผิด ตีความผิดด้วยเหมือนกัน จนเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้มานักต่อนักแล้ว

 รวมหนังสือเรียนภาษาต่างประเทศ

รวมลิงก์หนังสือมารพิณ

 ใครที่คิดว่าเรื่องราวภาษาอังกิดที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆ ใน Facebook ด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามภาษาอังกฤา หรือแก้ปัญหาการบ้านภาษาอังกฤษนะครับ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ (English for learners - blog)