โดย มารพิณ
www.facebook.com/marnpinbook
มาว่ากันเรื่องวิธีกรอกเอกสารพวกใบขาเข้า ขาออก ว่ากรอกกันยังไง เขียนเป็นภาษาอะไร ช่องไหนกรอกแบบฟอร์มยังไง คือคนที่เป็นมือใหม่ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือไปธุระต่างแดนก็อยากจะรู้อยากทราบกันครับ ไปถึงด่าน ลงเครื่องจะได้กรอกกันได้ถูก
ข้อมูลตรงนี้ผมเอามาจากส่วนหนึ่งของหนังสือ "Snake Fish Fish ภาษาอังกฤษเที่ยวนอก" ครับ เอามาลงเป็นน้ำจิ้มเผื่อใครจะสนใจไปซื้อมา อิอิ...แอบขายของเล็กน้อย
ขออนุญาติประชาสัมพันธ์ให้ไปซื้อหาฉบับจริงมาใช้งาน จะได้พกติดตัวสำหรับคนที่ไม่เคยเดินทางไปไหนมาไหน ในต่างแดน และภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง แวะไปดูได้ที่ลิงก์ http://feelthai.blogspot.com/p/snake-fish-fish.html นี้ครับ แนะให้ติดตัวเวลาเดินทาง
ใครสนใจหนังสือที่ไม่ได้วางตามร้านหนังสือทั่วไปแล้ว สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์ 02-8794012 และ 083-0858896 ในเวลาทำการ 9 โมงเช้า ถึง บ่าย 3 ครับ
เบอร์ คุณแหม่ม สำนักพิมพ์ Book Cafe คับ
บทนี้ผมเอามาคั่นกลางระหว่างตอนสนามบินที่เราเป็นผู้โดยสารขาออกกับที่อยู่บนเครื่องบินแล้ว เหตุก็คือ ช่วงนี้เราจะต้องกรอกแบบฟอร์มหลายใบที่ดูเผินๆ เหมือนจะยุ่งยาก แต่ถ้าเคยเดินทางและกรอกไอ้เจ้าแบบฟอร์มพวกนี้บ้างแล้วจะรู้เลยว่าไม่มีอะไรหรอก แถมเจ้าหน้าที่แทบทุกรายไม่ว่าจะชาติไหน สนามบินไหนก็ดูจะไม่ค่อยใส่ใจกับเอกสารที่เราอุตส่าห์กรอกให้เลยแม้แต่น้อย ให้ตายเถอะ !
แต่ในเมื่อระบบราชการมันมีแบบนี้กันทุกประเทศ ชีวิตนักเดินทางอย่างเราก็ต้องทนกรอกเอกสารพวกนี้กันต่อไป บทนี้เราจะมาว่าด้วยการกรอกเอกสารน่าเบื่อแต่จำเป็นพวกนี้ โดยจะอธิบายคำภาษาอังกฤษที่มีในเอกสาร และแนะนำว่าต้องกรอกอะไรไปบ้าง รวมทั้งมีภาพเอกสารที่กรอกแล้วเป็นตัวอย่างให้ดูกันพอหอมปากหอมคอ
บัตรขาเข้าขาออก
อย่างแรกที่เราเจอก็คือ บัตรขาเข้าและขาออกที่เป็นใบเดียวกัน มีรอยปรุให้ฉีกแบ่งครึ่ง ใบนี้เขาจะให้เราตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินเลยครับ
เวลาเดินทางด้วยเครื่องบินเราจะได้บัตรขาเข้าขาออกมาสองชุดก็คือ
1- บัตรขาเข้าขาออกของประเทศไทย
ใบนี้เราจะได้จากเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน จะเป็นสองส่วนคือ depature card (ขาออก) และ arrival card (ขาเข้า) ทั้งสองใบกรอกเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ถึงเราเป็นคนไทยก็ตาม
หน้าตาบัตรขาออกเมืองไทย คลิกเมาส์ขยายดูแบบใหญ่ๆ ได้ครับ |
พอเราผ่านด่าน ตม. ขาออกเจ้าหน้าที่จะฉีกเก็บส่วนที่เป็นขาออก หรือ depature card เก็บไว้ และเอาใบ arrival card (ขาเข้า) เย็บไว้กับหน้าพาสปอร์ตของเราที่มีตาปั๊มออกของเรา ซึ่งเราต้องใช้ใบนี้อีกทีตอนเดินทางเข้าประเทศไทยขากลับ
หน้าตาบัตรขาเข้าเมืองไทย คลิกเมาส์ขยายดูแบบใหญ่ๆ ได้ครับ |
2- บัตรขาเข้าขาออกของประเทศที่เราไป
คราวนี้เรื่องราวจะสลับกัน ใบนี้เราจะได้จากแอร์โฮสเตสบนเครื่องบิน จะแบ่งเป็นสองส่วนคือ depature card (ขาออก) และ arrival card (ขาเข้า) เช่นกัน แต่ใบที่เราจะใช้ก่อนก็คือ ใบขาเข้า เพราะเรากำลังจะเดินทางไปถึงประเทศนั้น
พอผ่านด่าน ตม. ตอนเข้าประเทศเค้า เราก็จะยื่นใบนี้ให้เขาพร้อมพาสปอร์ต แล้วเจ้าหน้าที่จะฉีกใบขาเข้าเก็บไว้ และแนบใบขาออกเก็บไว้ในพาสปอร์ตเรา ซึ่งเราจะต้องเอาใบขาออกนี้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตอนขากลับ
หน้าตาบัตรขาเข้าจีน ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง |
รูปบัตรขาออกเมืองจีน เดี๋ยวผมจะสอนวิธีกรอกให้ด้านล่างนี้ |
ฟังผมเล่ามาถึงตอนนี้แล้วอาจดูงงอยู่บ้าง แต่ไม่ต้องห่วงอะไรครับ เราทำแค่กรอกมันให้หมด เอาให้ครบทั้งสองใบ กรอกมันให้เกลี้ยงทั้งบัตรขาเข้าขาออก คราวนี้เจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งเมืองไทยและเมืองนอกมันจะตรวจอะไร หรือฉีกใบไหนไปก็ให้ทำไป เราคอยเก็บรักษาใบที่เหลือไว้ให้ดีก็แล้วกัน อย่าทำหายเป็นอันขาด
ใครอยากเห็นหน้าตาบัตรขาเข้าขาอกของประเทศต่างๆ ดูตามลิงก์นี้ครับ
- บัตรขาเข้าเมืองลาว
Arrival และ Departure card ประเทศลาว ดูที่ลิงก์ http://feelthai.blogspot.com/2012/03/laos-arrival-and-departure-card.html นี้
- ใบขาเข้าเมืองจีน
Arrival และ Departure card ประเทศจีน ดูที่ลิงก์ http://feelthai.blogspot.com/2012/04/chinese-arrival-card-departure-card.html นี้
- บัตรเข้าเมืองสิงคโปร์
Arrival และ Departure card ประเทศสิงคโปร์ ดูที่ลิงก์ http://feelthai.blogspot.com/2012/04/singapore-arrival-departure-card.html นี้
เรามาดูกันต่อว่า จะต้องกรอกบัตรขาเข้า ขาออกกันยังไงบ้าง
- บัตรขาออก
++++++++++++++++++++++++++++++
โดยมากในแบบฟอร์มก็มักจะมีรายละเอียดดังนี้
Depature card แปลว่า บัตรขาออก (ตรงนี้บอกว่าเป็นบัตรขาออก)
No. แปลว่า เลขที่ (ตรงนี้ไม่ต้องกรอก แต่ละใบจะมีหมายเลขกำกับอยู่แล้ว)
Flight No. แปลว่า เที่ยวบินที่ (ใส่หมายเลขไฟลท์ของเราลงไป เช่น TG 666)
Family name แปลว่า นามสกุล (ระวังด้วยนะ ส่วนใหญ่แล้วนามสกุลจะมาก่อน และคนไทยชอบเผลอกันตรงนี้)
First name แปลว่า ชื่อ (กรอกชื่อตัวลงไป)
Middle name แปลว่า ชื่อกลาง หรือ ชื่อรอง (ชื่อพวกนี้คนไทยไม่มีครับ ทำเครื่องหมาย - หรือปล่อยว่างไปว่าไม่มี)
Male แปลว่า ผู้ชาย
Female แปลว่า ผู้หญิง
Passport No. แปลว่า หมายเลขพาสปอร์ต (ใส่หมายเลขพาสปอร์ตของเราลงไป เช่น I66666 เป็นต้น)
Place of issue แปลว่า ออกให้ที่ (หมายถึงสถานที่ที่ออกเอกสารพาสปอร์ต ส่วนใหญ่ของคนไทยจะเป็นกรุงเทพฯ ก็กรอกไปว่า BANGKOK หรือ BKK ก็เข้าใจกัน)
Date of issue แปลว่า วันที่ออกเอกสาร (ใส่วัน เดือน ปีลงไป ดูได้จากในพาสปอร์ตของเราเองครับ)
Nationality แปลว่า สัญชาติ (กรอก THAI ลงไปเท่านั้น อย่าใส่ THAILAND เป็นอันขาด)
Signature แปลว่า ลายเซ็น (เซ็นชื่อลงไป เอาลายเซ็นที่เหมือนในพาสปอร์ตของเรานะ)
For official use
แปลว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ (บริเวณนี้ไม่ต้องไปเขียนอะไร เขาไม่ได้มีใว้ให้เราออก มีให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกรอกเท่านั้น)
Please write clearly in block letters and mark x
แปลว่า กรุณาเขียนให้ชัดเจนด้วยอักษรตัวใหญ่ และทำเครื่องหมายกากบาท (เตือนให้เรากรอกด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่เท่านั้น)
- บัตรผู้โดยสารขาเข้า
++++++++++++++++++++++++++++++
โดยมากก็มักจะมีรายละเอียดดังนี้
No. แปลว่า เลขที่ (ตรงนี้ไม่ต้องกรอก แต่ละใบจะมีหมายเลขกำกับอยู่แล้ว)
Arrival card แปลว่า บัตรขาเข้า (ตรงนี้บอกว่าเป็นบัตรขาเข้า)
Family name แปลว่า นามสกุล (ระวังด้วยนะ นามสกุลจะมาก่อน และคนไทยก็ชอบเผลอกันบ่อยๆ)
First name แปลว่า ชื่อ (กรอกชื่อตัวลงไป)
Middle name แปลว่า ชื่อกลาง หรือ ชื่อรอง (ชื่อพวกนี้คนไทยไม่มีครับ ทำเครื่องหมาย - หรือปล่อยว่าง ไปว่าไม่มี)
Male แปลว่า ผู้ชาย
Female แปลว่า ผู้หญิง
Date of birth แปลว่า วันเดือนปีเกิด
Place of birth แปลว่า สถานที่เกิด (เช่น BANGKOK หรือชื่อจังหวัดอื่นเป็นภาษาอังกฤษ กรอกตามข้อมูลในหน้าพาสปอร์ตเรานะครับ)
Nationality แปลว่า สัญชาติ (กรอก THAI ลงไปเท่านั้น อย่าใส่ THAILAND เป็นอันขาดนะครับ)
Occupation แปลว่า อาชีพ (อย่ากรอกอะไรพิสดารลงไป เอาง่ายๆ)
Passport No. หมายเลขพาสปอร์ต (ใส่หมายเลขพาสปอร์ตของเราลงไป เช่น I66666 เป็นต้น)
Place of issue แปลว่า ออกให้ที่ (หมายถึงสถานที่ที่ออกเอกสารพาสปอร์ต ส่วนใหญ่ของคนไทยจะเป็นกรุงเทพฯ ก็กรอกไปว่า BANGKOK หรือ BKK ก็เข้าใจกัน)
Date of issue แปลว่า วันที่ออกเอกสาร (ใส่วัน เดือน ปีลงไป ตามที่ระบุในพาสปอร์ต)
Visa No. แปลว่า หมายเลขวีซ่า (กรณีที่เราเข้าประเทศอื่นที่ต้องใช้วีซ่า ให้ดูที่หน้าวีซ่าของเรา แล้วกรอกตัวเลขตรงนั้นลงไปในช่องนี้ ถ้าเป็นในกรณีที่เป็นใบขาเข้าตอนที่เรากลับมาเมืองไทย ตรงนี้ไม่ต้องกรอกอะไร เพราะเราเป็นคนไทยไม่ต้องใช้วีซ่า)
Place of issue แปลว่า ออกวีซ่าให้ที่ (หมายถึงสถานที่ที่ออกเอกสารวีซ่า ส่วนใหญ่ของคนไทยจะได้จากสถานทูตของชาตินั้นที่กรุงเทพฯ ก็กรอกไปว่า BANGKOK หรือ BKK ก็เข้าใจกัน)
Date of issue แปลว่า วันที่ออกวีซ่า (ดูในหน้าวีซ่าว่าเขาออกวีซ่าให้เราเมื่อไหร่ แล้วกรอกลงไปตามนั้น)
From แปลว่า มาจาก, เดินทางมาจาก
By rail แปลว่า ทางรถไฟ
By road แปลว่า ทางรถยนต์
By ship แปลว่า ทางเรือ
By air แปลว่า ทางเครื่องบิน
Flight No. แปลว่า หมายเลขไฟลท์
First trip to แปลว่า (ชื่อประเทศ) เดินทางมาประเทศนี้ครั้งแรกหรือเปล่า
Yes แปลว่า ใช่
No แปลว่า ไม่ใช่
Traveling on group tour แปลว่า เดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์หรือเปล่า
Yes ใช่
No ไม่ใช่
Length of stay แปลว่า อยู่นานกี่วัน
………….Days วัน
Purpose of visit แปลว่า จุดประสงค์ในการมา
Tourist แปลว่า นักท่องเที่ยว
Official แปลว่า ภารกิจทางการ, มาราชการ
Convention แปลว่าประชุม, สัมมนา
Business แปลว่า ธุรกิจ
Others แปลว่า อื่นๆ
(Please specify) แปลว่า โปรดระบุ.........
Country of residence แปลว่า ที่อยู่ปัจจุบัน บางทีก็ใช้ว่า Place of residence (เพลซ ออฟ เรสซิเดนท์) ที่อาศัยอยู่ปัจจุบัน โดยอาศัยประจำในประเทศนั้น
City/State แปลว่า เมือง หรือ รัฐ
Country แปลว่า ประเทศ
Address in (ชื่อประเทศ) แปลว่า ที่อยู่ในประเทศที่เรากำลังจะเดินทางเข้าไป (โดยมากก็กรอกชื่อโรงแรมไปซักแห่ง ไม่มีใครตามไปดูหรอกว่าเราพักที่นั่นจริงหรือป่ะ)
Signature แปลว่า ลายเซ็น (เซ็นชื่อลงไป เอาลายเซ็นที่เหมือนในพาสปอร์ตของเรานะ)
Notice แปลว่า คำเตือน (ตามเอกสารพวกนี้จะมีคำเตือนต่างๆ อยู่ด้วย โดยมากอ่านไม่ออกก็ไม่เป็นไร)