วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 19, 2556

เส้นทางเที่ยวลาว - เวียดนามกลาง



โดย มารพิณ

  www.facebook.com/marnpinbook
แวะเที่ยว  หน้ารวมข้อมูลเที่ยวเอง-backpack-แบกเป้

+ ลาว - เวียดนามกลาง
มุกดาหาร – สะหวันนะเขต – ด่งฮา - เว้ – ดานัง - ฮอยอัน

เส้นนี้จัดเป็นสุดยอดเส้นทางบก ชนิดวันเดียวเที่ยวสามประเทศซึ่งต่อไปเส้นนี้น่าจะนิยมกันมากขึ้นเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายและถนนหนทางดีหมดแล้ว รวมทั้งไม่ต้องเสียค่าเครื่องบิน เรากำลังจะเข้ายุคใหม่ของการท่องเที่ยวในอนาคตที่คนอีสานมาเที่ยวทะเลที่เวียดนามใกล้กว่าไประยอง !

การเดินทางเริ่มจากกรุงเทพฯ นั่งรถทัวร์ไปจังหวัดมุกดาหาร ต่อรถข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่สองไปเมืองสะหวันนะเขต (หรือจะข้ามด่านทางเรือตรงตัวเมืองมุกดาหารก็ได้) ที่คิวรถเมืองสะหวันฯ นี้จะมีเที่ยวรถประจำทางที่มีจุดหมายปลายทางที่ชายแดนตรงด่านสะหวัน และรถบัสที่วิ่งไปถึงเวียดนาม เส้นนี้จะวิ่งไปตามถนนหมายเลข 9 ไปที่ด่านสะหวัน (Dan Savanh) ข้ามไปด่านลาวบ่าว (Lao Bao) ในฝั่งประเทศเวียดนาม เข้าเมืองดงฮา แล้วเลี้ยวลงใต้ไปเว้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของเวียดนาม เลยต่อไปทางใต้ลงดานัง และฮอยอันตามลำดับ

ถ้านั่งรถประจำทางไปด่านชายแดนแล้วหารถฝั่งเวียดเอง ให้คำนวณเวลาให้ดีอย่าไปถึงชายแดนลาว - เวียดนาม บ่ายคล้อยหรือเย็นเกินไป ไม่งั้นจะต่อรถลำบาก หรือถ้าตกรถแล้วต้องค้างจะถูกโขกค่าที่พักแพงๆ ครับ

อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า ให้ลองใช้รถบริการนักท่องเที่ยวที่วิ่งตรงไปเวียดนามเลยจะดีกว่า (ติดต่อได้จากเกสต์เฮาส์และเอเยนซีทัวร์ในสะหวันนะเขต เช่น เกสต์เฮาส์สะหวันบ้านเฮา)

อัพเดต- รถสะหวันบ้านเฮาไม่ได้วิ่งแล้ว เดี๋ยวนี้มีรถบัสกลางคืนออกจากสถานีขนส่งเมืองสะหวันเขตแล้ว มีทั้งแบบดีและไม่ดี ต้องถามที่สถานีรถสะหวันนะเขต

เพราะรถประจำทางของลาวแบบธรรมดาจะวิ่งแบบนั่งชาตินี้ถึงชาติหน้าใช้เวลา 5 - 6 ชั่วโมงทั้งๆ ที่ทางไม่มีอะไรขับยาก เราจะเสียเวลาไปมากแบบไม่จำเป็น รถที่บริการนักท่องเที่ยวยังดีอีกอย่างตรงที่ด่านสองด่านเนี่ย มันไม่ได้อยู่ติดกันเป๊ะๆ แต่ห่างพอควร ถ้าเราไปเองจะต้องจ้างมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งอีกด่าน แต่พอมีรถประจำเราก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจุกจิกตรงนี้

ถ้ามีเวลาควรจะค้างหนึ่งวันที่เมืองสะหวัน

ปัญหาของเส้นทางนี้มีอยู่อย่างเดียวคือ เราต้องนอนค้างหนึ่งวันที่สะหวันนะเขตเพื่อความชัวร์ เหตุเพราะรถทัวร์จากกรุงเทพฯจะถึงมุกดาหารราวเจ็ดโมงเช้า กว่าเราจะข้ามด่านไป กว่าจะติดต่ออะไรก็มักจะไม่ทันรถเที่ยวเช้าทั้งรถชาวบ้านธรรมดาและรถสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้ารอเที่ยวถัดไปอาจจะไปถึงด่านชายแดนบ่ายมาก หรือเย็น จะไม่สะดวกอย่างยิ่ง ยิ่งเย็นยิ่งค่ำมากเท่าไหร่ อำนาจต่อรองเรื่องที่พัก เรื่องเช่ารถเดินทางต่อที่ชายแดนเราจะน้อยลงตามแสงอาทิตย์ที่ลับฟ้า (พอมืดแล้ว ผีดิบกับแวมไพร์จะออกอาละวาดครับ....อิอิ)

ดังนั้น ขอบอกว่าเพื่อความชัวร์ เราอย่าเสี่ยงกับพวกแวมไพร์ชายแดน อยู่เที่ยวเมืองสะหวันเล่นซักวัน จองเที่ยวรถเรียบร้อยแล้วออกแต่เช้าจะสบายใจ สบายกาย และปลอดภัยกระเป๋ากว่าครับ

ด่งฮาและเว้ 

รถสำหรับนักท่องเที่ยวนี้ถ้าคนเยอะจะเป็นรถบัส ถ้าคนน้อยจะลดขนาดลงมากลายเป็นรถตู้ และมักจะไปส่งเราแค่เมืองด่งฮา (Dong Ha) ในจังหวัดกวางชิ (Quang Tri) โดยจะส่งลงที่จุดรอซึ่งมักจะเป็นตัวแทนท่องเที่ยว จากนั้นเราจะรอรถบัสนักท่องเที่ยวคันใหญ่ที่วิ่งมาจากทางเหนือต่อรถเข้าเมืองเว้ (Hue) อีกที ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

รวมๆ แล้ว ถ้าออกจากเมืองสะหวันตอนเจ็ดหรือแปดโมงเช้า พอตกค่ำก็น่าจะถึงเมืองเว้แล้ว รถจากด่งฮาจะจอดส่งเราในเมืองเว้ที่แถวๆ ถนน Le Loi ตัดกับ Pham Ngu Lao หรือบริเวณใกล้เคียงกับสะพาน Trang Tien ถ้าจอดที่อื่นก็บอกว่าให้ไปถนนฟามหงูเหลา (ดี เดื่อง ฟาม หงู เหลา – ภาษาเวียด) ที่พักจะอยู่ในละแวกใกล้เคียงย่านนี้ครับ

ตัวเมืองเว้ทั้งหมดที่เราเห็นผ่านการทำศึกครั้งใหญ่จนเกือบราบไปทั้งเมืองในสมัยสงครามเวียดนาม และมีการสร้างขึ้นมาใหม่ โดยฝ่ายเวียดกงยึดบริเวณพระราชวงศ์เก่าเอาไว้ ส่วนทหารอเมริกันอยู่ด้านนอกมีแม่น้ำซงเฮืองหรือแม่น้ำหอมคั่นกลาง

เราสามารถขี่จักรยานเที่ยวเมืองเว้ได้ รถมอเตอร์ไซค์มากมายก็จริง แต่เท่าที่พอมองเห็นยังน้อยกว่าฮานอย หรือโฮจิมินห์ซิตี้ทำให้พอเช่าจักรยานขี่เที่ยวตัวพระราชวังเก่าได้ แต่ถ้าจะไปดูสุสานจักรพรรดิ์นอกเมืองควรจะเช่ามอเตอร์ไซค์ไปหรือ เหมาเรือล่องแม่น้ำไป โดยท่าเรือจะอยู่ใกล้ๆ สะพาน Trang Tien ราคาเช่าควรจะต่อรองให้รวมอาหารมื้อเที่ยงที่ทานในเรือด้วย และควรออกเดินทางแต่เช้าเพราะเรือจะเสียเวลาทวนน้ำไปและต้องอ้อมโค้งน้ำใหญ่กว่าจะไปถึงบริเวณที่ตั้งสุสานจักรพรรดิ์

ข้ามภูเขาไปดานัง 

ดานังโดยตัวเองเป็นเมืองใหญ่และเมืองอุตสาหกรรมและเมืองท่าสำคัญ เมืองนี้ไม่มีที่เที่ยวอะไรสำคัญมากนักแต่เป็นทางผ่านที่จำเป็นสู่ฮอยอันที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ การเดินทางจากเว้ไปดานังทำได้สองทาง และจะได้สัมผัสบรรยากาศยิ่งใหญ่สองแบบที่แตกต่างกัน ถ้าไปทางรถบัสจะผ่านอุโมงค์ห่ายวาน (Hai Van Tunnel) ความยาว 6.3 กิโลเมตรยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 อุโมงค์นี้จะช่วยให้รถไม่ต้องเสียเวลาไต่ระดับภูเขาสูงชันผ่านช่องเขาห่ายวานที่กั้นที่กั้นระหว่างเว้กับดานัง ตัวแทนท่องเที่ยวในย่านเกสต์เฮาส์น่าจะมีตั๋วรถวิ่งตรงผ่านดานังไปฮอยอันเลย รถจากเว้ไปดานังน่าจะใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง และจากดานังต่อไปฮอยอันน่าจะใช้เวลาราว 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง

ถ้าไปทางรถไฟ จากเว้ไปดานังให้นั่งฝั่งซ้าย แต่ถ้าเดินทางจากดานังมาเว้ให้นั่งฝั่งขวา ทำแบบนี้แล้วจะนั่งติดทะเล จุดเด่นของเส้นทางรถไฟสายนี้ก็คือจะเลาะลัดไปตามไหล่เขาสูงชัน แต่อีกฟากจะเป็นวิวทะเลสีคราม ลองนึกถึงภาพทางรถไฟไปเมืองกาญจน์ฯ แต่ภูเขาสูงกว่า แล้วอีกฟากก็เป็นทะเล สุดยอดเลยครับ แต่เส้นทางนี้จะยุ่งยากนิดนึงตรงที่เราต้องลงรถที่สถานีรถไฟดานัง แล้วต่อรถไปเมืองฮอยอันอีกทีนึง

ช่วงที่ออกนอกเมืองดานังมุ่งหน้าไปฮอยอัน ระหว่างทางด้านติดทะเลจะห็นชายหาดยาวเหยียดสามสิบกว่ากิโล ส่วนหนึ่งก็จะเป็นชายหาดชื่อดังสำหรับพวกจีไอที่มารบในสงครามเวียดนามว่า ไชน่าบีช (China Beach)

ฮอยอันฉันรักเธอ

ฮอยอัน (ฮอยอัน) เป็นเมืองเล็กๆ ที่เป็นท่าเรือเก่าแก่มีสถาปัตยกรรมจีนเก่าแก่ บ้านทรงจีนมากมาย และกลายมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างในเมืองไทยหลังกลายเป็นชื่อละครดังเรื่องนึง (ถ้าไปตรงช่วงพระจันทร์เต็มดวง ช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ 14 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนามในเมืองฮอยอันจะปิดไฟหมด จุดโคมตะเกียงย้อนบรรยากาศเก่าแก่เมื่อหลายร้อยปีก่อนให้เราชมกัน ใครชอบถ่ายรูปอย่าลืมเอาพวกขาตั้งกล้องดีๆ ไปด้วยนะครับ)

เมืองท่าสไตล์นี้เกิดขึ้นตลอดเส้นทางค้าขายระหว่างจีนกับอินเดียโบราณ เพราะว่าพวกพ่อค้าและนักผจญภัย ต้องมาจอดเรือรอทิศทางลมหลายๆ เดือนในแต่ละปี เกิดเป็นชุมชนค้าขายนอกประเทศขึ้นมา เมืองเก่าฮอยอันสามารถเดินเที่ยวได้สบายครับไม่ใหญ่มาก ลองหาร้านอาหาร แล้วสั่ง “เกาเหลา” ดูครับ เป็นก๋วยเตี๋ยวแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนเกาเหลาบ้านเรา

ปัญหาของฮอยอันคือเป็นเมืองเล็ก ที่พักอาจเต็มอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไฮซีซัน และช่วงพระจันทร์เต็มดวง ทางเลือกคือยอมพักที่เกสต์เฮาส์ห่างย่านเมืองเก่าออกไปแล้วเช่าจักรยานปั่นเอา จากฮอยอันสามารถซื้อเดย์ทัวร์ไปเที่ยวชุมชนโบราณของพวกจาม ที่เมืองโบราณ My Son ซึ่งเคยรุ่งเรืองแถบนี้มาก่อน เดย์ทัวร์ที่ขายกันมีทั้งแบบล่องเรือไปและไปรถครับ แต่น่าเสียดายในสงครามเวียดนามเมืองโบราณแห่งนี้ถูกพวกอเมริกันเอาเครื่อง B52 มาทิ้งบอมบ์




จอง-ค้นหาที่พัก Agoda 


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ