วันอังคาร, ตุลาคม 30, 2555

ข้อคิดเรื่องเวลาแลกเงินไปเที่ยวต่างประเทศ


โดย มารพิณ
ไป เฟซบุ๊ค   www.facebook.com/marnpinbook
ไป หน้ารวมข้อมูลเที่ยวเอง-แบคแพค

มีข้อคิดเรื่องเวลาไปแลกเงินเพื่อเดินทางมาฝากกันครับ เผื่อประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสมของทริปแต่ละคน แต่ละประเทศที่เดินทางไป

แลกเงิน

ไปถึงต่างแดน ยังไงก็ต้องแลกเงินครับ โดยมากเราก็ต้องแลกเงินดอลลาร์ไปก่อนจากเมืองไทย (เว้นแต่ว่า เราไปเที่ยวยุโรปในประเทศที่ใช้เงินยูโร หรือไปจีนที่ใช้หยวน หรือประเทศอื่นๆ ที่ใช้เงินของเขาเอง)

+อย่าแลกเงินกับนายหน้าที่เดินเข้ามาหาเรา ไม่ว่าพวกนี้จะให้เรตดีแค่ไหน เช่น ถ้าไปฮานอย นายหน้าพวกนี้จะเดินเพ่นพ่านอยุ่แถวหน้าไปรษณีย์ กลางริมทะเลสาบ เงินที่ได้มามักจะไม่ครบ โดยจะได้เศษเงินย่อยมาเยอะ กว่าเราจะนับจนรู้ว่าได้ครบหรือไม่ครบ ไอ้นายหน้าตัวดีนี่ก็หายแว๊บไปซะแล้ว

+เราต้องแลกเงิน เพราะเกือบทุกกรณีเราจ่ายเป็นเงินท้องถิ่นโดยมากจะถูกกว่าเอาเงินประเทศอื่นจ่าย บางประเทศเราอาจใช้เงินไทยจ่ายได้เช่น ลาว หรือเวียดนามบางเมือง แต่ทราบมั้ยครับว่า คุณจ่ายแพงกว่าปกติไปแล้ว คนขายเขาอาจได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และเราขาดทุนไปนิดหน่อยโดยไม่รู้ตัว

+ระวังแบงก์ปลอม หรือบางทีไม่ปลอม คือเป็นแบงก์ของประเทศนั้นจริงๆ แต่เลิกใช้ไปแล้ว จะยัดใส้เข้ามาในปึกเงินที่เราได้จากจากการแลก เวลานับต้องดูให้ดี

+ในย่านเกสต์เฮาส์ทั่วโลกจะมีร้านแลกเงินตั้งอยู่ ร้านที่ดีควรมีเรตเงินโชว์ให้เห็นชัดๆ ว่าให้อัตราเท่าไหร่ ไม่ใช่รอให้เราไปถาม เดินดูเรตเงินหลายๆ ร้านครับ บางร้านอาจจะได้ราคาดีกว่านิดหน่อย ในบางประเทศเช่นเวียดนาม ร้านทองก็รับแลกเงินเหมือนกัน

+บางประเทศจะหาที่แลกเงินยากมาก เช่น เมืองจีน ก่อนไปถึงควรหาแลกเงินหยวนไปให้พอ ม่ายงั้นเอางี้ดีกว่า หาแทบตายก็หาไม่เจอ ส่วนประเทศอื่น อาจเจออะไรแปลกๆ เช่น บรูไน ที่เราไปซื้อของ แล้วคนขายบางทีทอนเงินมาเป็นเหรียญสิงคโปร์ ที่เป็นแบบนี้เพราะบรูไนล็อคค่าเงินตัวเองไว้กับเงินดอลลาร์สิงคโปร์ จะทอนอะไรมาก็เหมือนกันนั่นแหละ

+แลกเงินที่เคานเตอร์ธนาคารสนามบิน มักจะได้เรตที่ไม่ดี แต่ในทางกลับกันก็เป็นแหล่งที่มีปัญหาเรื่องเงินปลอมน้อยที่สุดเหมือนกัน ถ้าเราไปถึงประเทศนั้นแล้วยังไม่มีเงินสกุลท้องถิ่น ให้แลกมาพอประมาณจ่ายค่าแท็กซี่หรือค่ารถอย่างอื่น รวมทั้งค่าที่พักคืนแรกก่อน เพราะบางทีเราไปถึงย่านเกสต์เฮาส์ แต่พวกร้านแลกเงินปิดหมดแล้ว คราวนี้จะหาที่แลกเพื่อเอามาใช้จ่ายก็หาลำบากและมักจะได้เรตไม่ดี

+เวลาแลกเงิน อย่าลืมขอแบงค์ย่อยไว้ด้วยนะครับ เพราะการถือแต่แบงค์ใหญ่จะทำให้ใช้ค่อนข้างยาก เช่น เวลาขึ้นรถหรือกินข้าวข้างทาง   ถ้าเราแลกเงินดอลล์ไปจากเมืองไทย เพื่อไปประเทศ อย่างเวียดนาม ลาว พยายามขอแบงก์ดอล์ย่อยด้วยนะครับ เวลาใช้จ่ายจะได้คล่องตัวหน่อย

+เคานเตอร์โรงแรมหรือเกสต์เฮาส์ที่เราไปพัก มักจะแลกเงินได้ แต่เรตที่ให้จะไม่ดีเท่าร้านแลกเงิน
+ในการแลกเงินทุกครั้งเราจะขาดทุนส่วนต่างเล็กน้อยทุกครั้งเช่นกัน ดังนั้น หาข้อมูลก่อนว่าประเทศนั้นใช้เงินอะไร หรือว่าใช้หลายสกุล เช่น ถ้าไปอิตาลีที่ใช้เงินยูโร เราก็อย่าแลกเงินดอลลาร์ไป เพราะไปถึงเราก็ต้องแลกเป็นยูโรอีก เท่ากับว่าขาดทุนส่วนต่างหลายครั้ง
+นับเงินเสมอ ไม่ว่าจะที่ไหน หรือมีคนต่อคิวเรายาวแค่ไหน ตรวจนับเงินที่ได้มาต่อหน้าคนที่เราแลกด้วย ถ้าไม่ครบจะได้โวยทันที แต่ถ้าเราเดินออกไป แล้วจะทวงเงินที่ขาดได้ยากเพราะทางร้านแลกเงินก็ต้องระวังคนเล่นตุกติกกับมันด้วยเหมือนกัน

+แบงก์ใหญ่จะได้เรตที่ดีกว่าแบงก์ย่อย ใบละ 50 หรือ 100 ดอลล์ จะได้เรตดีกว่า ใบละ 1 ดอลล์หรือ 5-10 ดอลล์

+เงินบาทจะแลกได้เฉพาะตามสนามบินเมืองใหญ่ๆ ที่มีเครื่องบินจากกรุงเทพฯไปลง แต่ถ้าไปไกลกว่านั้นเช่นเข้าเมืองไปอาจหาที่แลกบาทไม่ได้
+บางทีก็อย่าคิดมากเรื่องแลกเงิน ถ้าเราไม่ได้แลกเป็นแสนเป็นล้าน ไอ้เรตเงินที่มันต่างกันนิดหน่อยก็ไม่ได้ทำให้เรารวยขึ้นหรือจนลงมากนัก ซีเรียสมากจะปวดหัวเปล่าๆ ขอบอก หรือบางคนพอไปเมืองนอกก็คิดทุกอย่างที่ซื้อกลับเป็นเงินไทย ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ ในบางประเทศอย่างอังกฤษ ที่ใช้เงินปอนด์มหาโหด พอคิดออกมาเป็นเงินไทยแล้วอาจจะช็อคกับค่าอาหารที่เพิ่งทานไป หุหุ  


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ