วันอาทิตย์, ธันวาคม 12, 2553

คำแนะนำและปัญหาเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษ


โดย มารพิณ



ปกติผมไม่เน้นมาแก้เรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษเท่าไหร่นัก เพราะไม่ใช่พวกครูภาษาอังกฤษสมัยเก่าบางคนที่คอยติไปเรื่อยว่าอันนั้นถูก อันนี้ผิด อันนี้ไม่ใช่สไตล์ครับ

อีกอย่างการมาจับผิดเรื่องออกเสียงมันทำลายความมั่นใจคนเรา   แถมภาษาอังกฤษมันยังมีศูนย์กลางอยู่ในหลายประเทศเช่น  เกาะอังกฤษ   ทวีปอเมริกาเหนือ  ทวีปออสเตรเลีย  เกาะไอร์แลนด์ หรือแม้แต่ภาษาอังกฤษแบบอินเดีย หรืออังกฤษแบบสิงคโปร์  เขาก็มีสำเนียงการออกเสียงภาษาอังกฤษที่เขียนตัวเหมือนกันแต่เสียงที่ออกมามันไม่เหมือนกันเป๊ะ    ดังนั้นการออกเสียงแต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะ  จะว่าอันนี้ถูก อันนี้ผิด  แบบนี้ก็ขึ้นว่าจุดยืนอยู่ตรงไหน สมมติว่า คนอังกฤษที่ลอนดอน บอกว่าเมิงผิดหมด กรูถูกอยู่คนเดียว   แบบนี้ก็คงไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย
แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ  ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีปัญหาในตัวมาก เมื่อเทียบกับภาษาอื่นๆ  ในโลกใบนี้ ตรงที่เสียงที่ออกมานั้น มันไม่ค่อยตรงกับตัวสะกด หรือบางทีเสียงออกมาคนละเรื่องเลย  แถมมีข้อยกเว้นในการออกเสียงและสะกดมากมาย    ถ้าเทียบกันแล้ว ภาษาไทยมีระเบียบแบบแผนในการสะกดเสียงคำมากกว่าเยอะ

เอาตัวอย่างง่าย  ๆ  ว่า  ภาษาอังกฤษ มีปัญหาในการสะกดเสียงยังไง   ดูคำนี้ครับ  จิ้มคลิกฟังเสียงได้ตรงคำที่เป็นเมาส์ลิงก์

car = c+ar   =  CAR     ค่าร์  คือ รถ   

bar = b+ar =  BAR    บ่าร์   คือ บาร์  หรือ แท่ง 

แล้วมาดูคำนี้กันต่อ

war =  w+ar = WAR     คำนี้ที่แปลว่า  สงคราม  มันควรจะออกเสียง  "ว่าร์"   แบบเดียวกับสองคำแรกใช่มั้ยล่ะ  คือ  "ค่าร์"  กับ  "บ่าร์"   แต่มันดันกวนตีน ตรงที่ออกเสียง   "ว่อร์"  ซะนี่

นี่ตัวอย่างเล็กน้อยแค่กับแกล้มกับน้ำจิ้มภาษาอังกฤษเท่านั้้น ทีนี้เวลาครูไทยสอนภาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้บอกว่า นี่เป็นปัญหาของภาษาฝรั่งเขา  พอเราเรียนจำผิดจำถูก ก็โดนแก้มาแดงเถือก เกิดความไม่แน่ใจในตัวเองว่า เฮ้ย.....มันออกเสียงยังไงกันแน่

ดังนั้น สิ่งที่ต้องระวังในการฝึกภาษาอังกฤษคือ   ทราบไว้เสมอเลยว่า  ตัวสะกดอังกฤษไม่ได้ให้เสียงแท้ตามการเขียนเสมอไป   

ส่วนเหตุผลว่าทำไมไม่เหมือนนั้น  เดี๋ยวจะค่อยๆ  มาเล่าต่อไป ทีละนิด คราวละหน่อยจะได้ไม่น่าเบื่อ แต่บอกใบ้ให้นิดว่า เป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทางเสียงในภาษาอังกฤษครั้งใหญ่เมื่อหลายร้อยปีก่อน แล้วจะมาลำดับเรื่องราวให้ฟังอีกทีครับผม

นอกจากนี้ก็มีเขียนไว้บ้างในหนังสือเล่มชื่อ  "ภาษาอังกฤษร้ายสาระ"  http://feelthai.blogspot.com/p/blog-page_26.html ครับ


 รวมลิงก์หนังสือมารพิณ

มีอะไรก็คอมเมนท์มาได้ นะครับ.... ใครมีความรู้เพิ่มเติมก็มาแชร์กัน ผมไม่ได้เก่งอะไรมากมาย ยังไงฝากบอกแนะนำลิงก์ของบล็อก feelthai.blogspot.com ต่อเพื่อนๆ ด้วย
 แต่ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามภาษาอังกฤา หรือแก้ปัญหาการบ้านภาษาอังกฤษนะครับ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ
 (English for learners - blog)