วันจันทร์, ตุลาคม 08, 2555

เคล็ดลับเที่ยวต่างแดน - แผนที่กับลายแทง


โดย มารพิณ
ไป เฟซบุ๊ค   www.facebook.com/marnpinbook
ไป หน้ารวมข้อมูลเที่ยวนอก-แบคแพค

แผนที่กับลายแทงต่างกันตรงที่  ลายแทง คือเราไปตามคำบอกเล่าของใครบางคน  เช่นดูรีวิวที่เที่ยวในเว็บบอร์ด  เขาถ่ายภาพมาให้เห็น แล้วอธิบาย ว่าไปที่นั่นนะ เลี้ยวขวาไปจะเจอร้าน แล้วก็ต้องเดินทางไปตามนั้น ข้อดีคือละเอียด บางคนถ่ายรูปมาทุกหัวมุมถนน  แต่ข้อเสียคือ ไปนอกเหนือลายแทงไม่ได้ ปรับเปลี่ยนเส้นทางไม่ได้เลย

ส่วนแผนที่ ถึงจะให้ข้อมูลน้อยกว่า ไม่ละเอียดเท่าแต่เราสามารถปรับเปลี่ยน และเลือกเส้นทางเองได้ จะเที่ยวแบบไหนปรับยังไงทำได้สะดวก

สรุปก็คือ  แผนที่ให้อิสระทางเลือกของการเดินทาง มากกว่า


แผนที่

ไปเที่ยวที่ไหนนานหน่อย แผนที่ใหญ่ที่พับแล้วกางออกได้ก็จำเป็นครับ เราจะได้เห็นภาพรวมของประเทศนั้นได้ว่า อะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง แผนที่ประเทศหนึ่งราคาราวสองสามร้อยบาท ผมเห็นมีวางขายเยอะที่สุดที่ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะสาขาเอ็มโพเรียม

แผนที่อีกอย่างคือ แผนที่แจกฟรีตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่นสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า เวลาที่เราบินไปถึงแล้วผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้วให้ลองมองหาเคานเตอร์ หรือแผงมีเอกสารท่องเที่ยว โบร์ชัวร์และแผนที่แจกฟรีมากมาย อย่าลืมคว้าติดมือจะเป็นประโยชน์

เรื่องดูแผนที่ก็มีคำแนะนำทิ้งท้ายไว้นิดนึงว่า เรื่องทิศทางในแผนที่นั้นมันเซนส์ในตัวของมันเอง ซึ่งบางคนดูแผนที่แล้วไม่เข้าใจ(คือดูยังไงก็ไม่รู้เรื่อง คือไม่มีเซนส์เรื่องทิศทาง) แต่อีกคนอาจเข้าใจมากกว่า ถ้าเราไปหลายคนลองสังเกตว่าดูไปดูมา บางคนมีเซนส์ความรู้สึกเรื่องแผนที่กับทิศทางมากกว่าเพื่อน เจอแบบนี้ก็มอบหมายหน้าที่ให้ดูแผนที่ไปเลยครับ

ระวังการเที่ยวแบบลายแทง

ผมเห็นนักเที่ยวบางคนที่หาข้อมูลมาจากเน็ต ซึ่งอาจจะเป็นพวกบล็อก หรือเว็บบอร์ด สังเกตได้ง่ายคือ จะปรินต์ข้อมูลใส่กระดาษมาถือเดินทางกันเป็นปึกๆ เสร็จแล้วก็เดินทางตามคนเขียนบอกเป๊ะๆ ไปกินข้าวร้านเดียวกัน พักที่เดียวกันกับที่เขาเล่าไว้ หรือเคยไปอ่านหนังสือที่บอกเล่าประสบการณ์การเดินทางแล้วเที่ยวตามนั้น เหมือนเดินทางไปตามลายแทงหาสมบัติ ที่ว่าให้ก้าวไปข้างหน้าสามก้าว ไปทางซ้ายแปดก้าว มองไปทางขวาจะเห็นต้นไทรใหญ่.......อะไรแบบนี้

แหม....ว่าไงดี ก็ทำได้ครับ แต่อย่าลืมว่า ประสบการณ์การท่องเที่ยวเป็นเรื่องเฉพาะตัวมาก ถึงเราทำตามนั้นได้จริง แต่สิ่งที่เสียไปอาจเป็นประสบการณ์ของเราเอง ที่อาจพบเจออะไรที่ดีกว่านั้นก็ได้ ดูไว้เป็นแนวทางดีกว่าครับ แต่สงวนทุกย่างก้าวให้เป็นของเราเอง ผมเคยอ่านเจอสุภาษิตโอกินาวาบนนึงที่อาจให้แง่คิดได้บ้างว่า .....ถึงจะต่างมาด้วยเส้นทางที่ต่างกัน แต่บนนั้นเราจะเห็นพระจันทร์ดวงเดียวกัน

นอกจากนี้ ทุกอย่างยังเปลี่ยนไปได้ตามกาลเวลาครับ ผ่านไปแค่หกเดือน เกสต์เฮาส์นั้นอาจเปลี่ยนเจ้าของ ร้านอาหารที่ว่าอร่อยไปกินอีกทีอาจผิดหวังเพราะพ่อครัวเปลี่ยนไปอยู่ร้านอื่น มีถนนตัดใหม่ทำให้แผนการเดินทางเดิมเชยไปทันที แม่ค้าตาหวานคนงามอาจเลิกขายของเพราะมีสามีไปเรียบร้อยแล้ว ฯลฯ

เดินตามลายแทงตลอดอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยครับ เรามาคิดสร้างแผนการเดินทางที่ยืดหยุ่นได้ หยุดได้เมื่ออยากจะหยุด พักได้เมื่อเหนื่อย และเลือกไปให้ไกลตามความรู้สึกเราได้จะดีกว่า




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ