วันศุกร์, ตุลาคม 12, 2555

ถนนนักเดินทาง - เที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย

ในย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาให้เอากระเป๋าเล็กที่สะพายหมุนมาสะพายอยู่ด้านหน้า แบบที่เห็นในรูปที่จตุรัสกลางเมืองกาธมันฐุ เนปาล นี้จะช่วยป้องกันการโดนกรีดกระเป๋าได้ดีกว่า

โดย มารพิณ
ไป เฟซบุ๊ค   www.facebook.com/marnpinbook
ไป หน้ารวมข้อมูลเที่ยวนอก-แบคแพค
เที่ยวยังไงให้ปลอดภัย
เรื่องหนึ่งที่เป็นประเด็นถกเถียงกันมาตลอด คือเรื่องของความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยว เพราะเรากำลังพูดถึงการเดินทางไปเที่ยวในต่างแดน ในพื้นที่ที่เราไม่คุ้นชิน ต่างวัฒนธรรม ต่างความเชื่อ ฯลฯ แต่หันมามองและพิจารณาจากข้อเท็จจริงและเทียบจากจำนวนนักเดินทางหลายล้านคนทั่วโลกในแต่ละปี จะพบว่า มีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ เหล่านี้ขึ้น

ในบทนี้เราจะพูดถึงเซนส์ต่างๆ และวิธีเที่ยวยังไงให้ปลอดภัย อันที่จริงถ้าทำตามกฎพื้นฐานต่างๆ โอกาสที่จะเกิดเหตุร้ายกับเราระหว่างเดินทางในต่างแดนนั้นจะลดลงได้อย่างมาก ในทางกลับกัน ทุกสังคมมี คนดีมีมากกว่าคนไม่ดี ผมย้ำให้ระวังตัวเสมอ แต่ไม่ใช่ระแวงไปทุกเรื่องจนเสียโอกาสของมิตรภาพ มีคนดีมีน้ำใจและเจตนาดีพร้อมและคอยช่วยเหลือเราเสมอ

ใช้คอมมอนเซนส์
ข้อนี้สำคัญที่สุด อย่าทำอะไร หรือไปที่ๆ เราไม่ได้ทำหรือไปเวลาอยู่บ้านเรา ถามตัวเองเสมอว่า เราจะทำแบบนี้มั้ยถ้าอยู่เมืองไทย อย่าทำอะไรที่ละเมิดกฎหมาย หรือธรรมเนียมประเพณีของประเทศที่เราไป

อยู่ในย่านท่องเที่ยว
ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ เหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจะเป็นข่าวใหญ่เสมอ นอกจากลักเล็กขโมยน้อยบ้างแล้ว ในย่านท่องเที่ยวหรือสถานที่ท่องเที่ยวถือว่าปลอดภัยพอสมควร เพราะไม่มีใครอยากทุบหม้อข้าวตัวเอง ถ้านักท่องเที่ยวไม่มาเพราะกลัวเหตุร้าย

โจรมีทุกประเทศ
ชาติพัฒนาแล้วอย่างอิตาลีมีโจรชุมยิ่งกว่าเมืองยากจนของอินเดีย อย่าตัดสินว่าประเทศนั้นดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่คน อย่าวางใจว่าไปประเทศตะวันตกแล้วปัญหาพวกนี้จะไม่มี

หลีกเลี่ยงการวิวาท
มวยไทยนั้นยอดนักสู้จริง ทั่วโลก แต่ปัญหาคือ เราเป็นแค่คนไทยเฉยๆ ไม่ได้เรียนมวยไทยมา ดังนั้นการทะเลาะวิวาทในต่างแดนไม่ว่าด้วยสาเหตุใดโอกาสโดนยำมีสูงมาก เพราะเราไม่มีพวก สุภาษิตจีนที่น่าสนใจมีไว้ว่า “มังกรยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ต้องเกรงใจงูเจ้าถิ่น”

อย่ายุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ทะเลาะกันไม่ว่าคนท้องถิ่นทะเลาะกันเอง หรือนักท่องเที่ยวทะเลาะกัน ถ้าคุณถูกซ้อมหรือทำร้ายให้ปกป้องสองส่วนในร่างกายที่สำคัญที่สุดคือ ดวงตาและอวัยวะเพศ(อย่างหลังสำหรับผู้ชาย)

อย่าใช้เครื่องประดับ
อย่าใส่เครื่องประดับ ทองคำ หรือของมีค่าอื่นๆ ติดตัวมากจนเกินไป ทางที่ดีคือไม่ใส่ไปเลยจะดีที่สุด ปัญหาที่อาจจะหนักกว่าไม่ใช่ว่าโดนปล้น แต่คือเราเองนี่ล่ะที่ลืมไว้ตามห้องน้ำ ที่พัก รถไฟฯลฯ ถ้าทำใจไม่ได้เวลามันจะหายขึ้นมา ก็อย่าเอามันไปด้วยเวลาเดินทาง
ทุกๆ ปีข้าวของนักท่องเที่ยวหายไปเพราะลืม มากกว่าถูกขโมยหรือจี้ครับ

อย่าทิ้งของมีค่าไว้ในห้องพัก
ไม่ว่าจะเป็นห้องพักโทรมๆ หรือแม้แต่โรงแรมระดับห้าดาว กฎเหล็กข้อหนึ่งที่ต้องย้ำคือ อย่าทิ้งของมีค่าไว้ในที่พักเด็ดขาด ถึงแม้เจ้าของที่พักเราจะตั้งใจดูแล แต่ไม่มีใครรู้ว่ากุญแจแต่ละห้องผ่านมือคนมากี่ร้อยกี่พันคน

อย่าลืมเลือกห้องพักที่มีกลอนแน่นหนา ถ้าไม่แน่ใจให้ใช้ที่ดันประตูค้ำไว้ไม่ให้เปิดได้ (พูดไว้แล้วในบทอื่น) หรือใช้เป้ เรามาค้ำประตู

เมื่อต้องพักในห้องพักแบบห้องรวม หรือ Dorm ในเกสต์เฮาส์บางแห่ง อย่าวางใจเพื่อนใหม่มากเกินไป กฎคืออย่าวางของมีค่า เงินทองไว้เป็นอันขาด ถ้าเดินทางโดยมีเพื่อนไปด้วย อาจผลัดกันเข้าห้องน้ำ

ระวังเรื่องเงิน
นับเงินในที่ลับตาคนเสมอ เช่น ในห้องพักหรืออื่นๆ ผมกับเพื่อนเคยเจอน้องสองสามคนหยิบเงินดอลล่าร์ออกมาเป็นปึก แล้วนั่งนับคำนวนสตางค์ที่โต๊ะอาหารกันหน้าตาเฉย แบบนั้นอันตรายมากๆ ครับขอบอก

ควรแบ่งเงินไว้เท่าที่จะใช้ในแต่ละวันโดยประมาณ จะได้ไม่ต้องควักเงินทั้งหมดออกมาเวลาจะจ่ายเงินซื้อของเล็กๆ น้อยๆ

อย่าให้เงินขอทาน
ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะดูน่าสงสารแค่ไหน คุณให้คนหนึ่งอีกสิบคนก็รุมล้อมเข้ามา ในขณะรุมล้อมทรัพย์สินเราก็เป็นอันตรายได้ นอกจากนี้พิสูจน์มาแล้วทั่วโลกว่าการให้ทาน ไม่ได้แก้ปัญหาความยากจนได้ สิ่งที่เราให้ไปไม่ได้ช่วยอะไรได้ คนจนเพราะปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจไม่ใช่เพราะเมา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใคร ที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ