บางแห่งก็ไม่มีแท็กซี่หรอก มีแต่สามล้อ ในภาพกำลังมุ่งหน้าจากเนปาล แถวใต้ลุมพินี จะไปชายแดนอินเดียครับ |
โดย มารพิณ
ไป เฟซบุ๊ค www.facebook.com/marnpinbook
ไป หน้ารวมข้อมูลเที่ยวนอก-แบคแพค
แท็กซี่
แท็กซี่คือพาหนะหลักของเราเวลาเดินทางจากสนามบินไปที่พัก
หรือท่ารถประจำทางไปกลับที่พัก
รวมทั้งเอาไว้เที่ยวในเมืองเวลาที่ต้องเร่งทำเวลา
ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของเราที่สุดเวลาเดินทาง
เพราะไม่แน่ใจว่าจะต้องไปที่ไหน
ไม่รู้จักเมือง และมีกระเป๋าใบใหญ่ๆ
ติดตัวเคลื่อนย้ายลำบาก
และแท็กซี่ก็รู้จุดอ่อนของเราดี
และใช้ประโยชน์จากตรงนี้เต็มที่เหมือนกัน
แท็กซี่ยังมีโรคประจำตัวเหมือนกันทั่วโลก
คือไม่ค่อยมีใครพกเงินทอนติดตัว
ทำราวกับว่าเป็นคำปฏิญาณสากลของแท็กซี่โลกที่แท็กซี่ทุกชาติต้องปฏิบัติเหมือนกันอย่างเคร่งครัด
ดังนั้นเวลาขึ้นแท็กซี่ให้เตรียมแบงก์ย่อยเอาไว้เสมอ
แล้วถ้าไม่มีแบงก์ย่อยล่ะ
ก็อย่าขึ้นแท็กซี่สิครับ
ฟันธงเป็นคำตอบสุดท้าย!
แทกซี่ตามสนามบินทั่วโลกยังมีมุขเหมือนกันอีกอย่างคือ
มักจะสอดรู้สอดเห็น
ชอบถามเราว่ามาจากประเทศไหน
พอบอกชื่อประเทศไป
คุยกันซักพักรู้เรื่องมั่งไม่รู้มั่ง
ก็จะหันมาถามว่า
มีเศษเงินเศษเหรียญของประเทศยูติดมาบ้างมั้ย
จะขอไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะ
ไม่ต้องให้มันไปนะครับ
มันมีช่องทางไปแลกอยู่
ไม่ใช่ที่ระลึกอะไรหรอก
อย่าไปเชื่อโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์ที่แท็กซี่แนะนำให้ไปพัก
เพราะราคาที่พักของเราจะแพงกว่าเดิมเพราะเกสต์เฮาส์เราต้องจ่ายค่านายหน้าให้แท็กซี่คนที่พาเราไปด้วย
ถ้ากลัวแท็กซี่ขับอ้อม
ให้ใช้มุขนี้ครับ
ทำทีเป็นกางแผนที่ของเมืองนั้น
(ถ้าเรามี)
หรือหนังสือไกด์บุ๊ค
มองซ้ายมองขวาตลอดทาง
ชี้โน่นชี้นี่ พยายามอ่านชื่อถนน
หรือชื่อร้านออกมาดังๆ
ทำทีเหมือนสังเกต(ถึงแม้จริงๆ
แล้วหลงอยู่ก็เถอะ)
ทำให้แท็กซี่ระวังตัวไม่ขับอ้อมกินมิเตอร์เรา
ในหลายประเทศจะโบกมั่วแบบเมืองไทยไม่ได้นะครับ
เขาจะต้องมีจุดจอดหรือจุดเรียกแท็กซี่โดยเฉพาะ
อย่าไปงงว่าทำไมเขาไม่จอด หรือรับเราตรงนั้น
ตามเส้นทางแบ็คแพ็คเกอร์
เช่น จุดท่องเที่ยว
หรือท่ารถประจำทาง
ให้ลองมองหาเพื่อนแบ็คแพ็คเกอร์ด้วยกัน
ถามว่าจะไปไหน
ส่วนมากจะไปที่พักซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกัน
ถามดูว่าอยากแชร์แท็กซี่กันมั้ยเพราะเราก็ไปแถวนั้นเหมือนกัน
ซึ่งก็มักจะโอเคกัน
เพราะตัวหารยิ่งเพิ่มค่ารถยิ่งถูกลง
ถ้าในประเทศที่ไม่มีมิเตอร์
เวลาต่อรองราคาแท็กซี่
ให้ลองต่อลงอย่างน้อยสี่สิบถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์
เอาไม่เอาก็ว่ากันไป
ลองทำอย่างนี้อยู่หลายเที่ยว
บวกกับคอยถามเพื่อนนักเดินทางคนอื่น
เราจะพอเริ่มจับราคามาตรฐานตามระยะทางของแต่ละประเทศได้
แล้วมาปรับราคาที่เราต่อรองกับแท็กซี่อีกที
เช่น ไอ้ที่เราต่อ 50
เปอร์เซ็นต์มันโหด
มิน่าแท็กซี่ทุกรายส่ายหน้าเดินหนีกันหมด
อาจต้องปรับลงมาต่อแค่
สามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นต้น
มีเคล็ดลับนิดนึง
เวลาต่อรองราคาให้ดึงคนขับที่เราจะต่อราคาออกไปห่างจากเพื่อนคนขับอื่นๆ
เพราะถ้าไอ้หมอนี่มันรับราคาต่ำไปตามที่เราต่อ
ก็จะเสียฟอร์มในสายตาเพื่อนฝูง
โดนเพื่อนกดดันว่างั้นเถอะ
สำหรับประเทศที่มีมิเตอร์
ให้ลองนั่งแท็กซี่มิเตอร์ดู
สามสี่ครั้งก็จะเริ่มกะราคากะระยะทางคร่าวๆ
ได้
พอเรากะได้แล้วเราจะประมาณได้ว่าค่าใช้จ่ายที่เหลือของทริปจะเป็นยังไงกันต่อไป
แนะอีกนิดว่าถ้าเราเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่เช่น
หกหรือแปดคน แล้วต้องใช้แท็กซี่สองคัน
ให้ตกลงกันให้ดีว่าต้องมีคนที่รู้ทาง
มีแผนที่ และพูดภาษาอังกฤษได้ในแต่ละคัน
อีกวิธีนึงคือซื้อซิมมือถือในประเทศนั้นมาใส่
มีมือถือประสานงานจะช่วยได้
เพราะถึงแท็กซี่ไปส่งที่หมายเดียวกันแต่ลงคนละจุด
จะหากันเจอไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าไปกันหลายคน เวลานั่งแท็กซี่พวกเราคนที่นั่งหน้าคู่คนขับจะเป็นคนถือแผนที่และตัดสินใจเส้นทาง |
TIPs และเคล็ดลับ
+แท็กซี่บ้านเราราคาจัดว่าค่อนข้างถูกนะครับ
มีหลายประเทศที่ค่ารถแพงกว่าเราเยอะ
และยังจะเรียกร้องทิปอีก
เรื่องทิปนี่ก็ว่ากันไปตามประเทศ
สำหรับพวกเราที่เที่ยวกันแบบประหยัดงบ
ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอที่รวยอะไรนักหนา
ถ้าแท็กซี่มันไม่ขอก็ไม่ต้องให้
ถ้าจะให้ก็นิดหน่อยก็พอ
แล้วดูด้วยว่ามันบริการดีหรือป่ะ
ขับรถเฮงซวยก็ไม่ต้องให้
+เราต้องเลือกแท็กซี่
อย่าให้แท็กซี่เลือกเรา
เลือกคันที่ไม่ได้เดินเข้ามาตื๊อเรา
หรือรออย่างผิดสังเกตในจุดที่นักท่องเที่ยวเยอะ
+อย่าขึ้นแท็กซี่ป้ายดำ
หรือแท็กซี่ที่มีรถเป็นหน้าตาแบบรถส่วนตัว
ไม่มีป้ายแท็กซี่
หรือแต่งตัวไม่น่าไว้ใจ
+บางประเทศอย่างสิงคโปร์
ถ้าเป็นวันหยุด หรือดึกๆ
ค่าโดยสารจะแพงกว่าปกติ
เป็นกติกาของประเทศเขาเอง
+อย่าไปยุ่งกับรสนิยมเพลงของโชเฟอร์นะครับ
เขาจะเปิดอะไรให้เราฟังก็ช่าง
+นับจำนวนกระเป๋าที่ถือมาจะได้ไม่ลืมเวลาลง
เอากล้องถ่ายรูปบัตรคนขับแท็กซี่เก็บไว้ได้วยเพื่อความไม่ประมาท แต่ในอีกด้านนึงก็ช่วยในเรื่องการตามของหายเวลาลืมของ ที่เห็นนี้คือแท็กซี่ฮ่องกงครับ จะมีป้า Taxi Driver Identity Plate |
+ถ้าอยู่ประเทศนั้นหลายวัน
หัดเรียนรู้ภาษาถิ่นคำว่า
“ช้าๆ” “ซ้ายขวา” และ “จอด”
+อย่าขึ้นรถที่มีผู้โดยสารอื่นนั่งอยู่แล้ว
หรือมีคนอื่นนอกเหนือจากคนขับนั่งอยู่
+ถ้าจะด่าคนขับ
ให้รอถึงที่หมายก่อนแล้วค่อยด่า อย่าไปด่ากลางทาง
+บางประเทศเขามีกฎหมายกำหนดว่าแท็กซี่จะนั่งได้ไม่เกินกี่คน
จะเอามาตรฐานคนไทยบอกว่าตัวเล็กขอนั่งเพิ่มไปอีกคนเขาไม่ยอมหรอก
+อย่าแปลกใจที่คนขับรถอินเดียจะบีบแตรไปตลอดทาง
คาดว่าเวลาเขาสอบใบขับขี่คงมีสอบบีบแตรด้วยมั้ง
จอง-ค้นหาที่พัก Agoda
รวมลิงก์หนังสือมารพิณ
ภาษาอังกฤษร้ายสาระ
Snake Fish Fish อังกฤษเที่ยวนอก
คู่มือสนทนาภาษาจีนฉบับ จิ้มชี้เที่ยว
รวมหนังสือที่เขียน(ท่องเที่ยว+ภาษา)
ภาษาอังกฤษร้ายสาระ
Snake Fish Fish อังกฤษเที่ยวนอก
คู่มือสนทนาภาษาจีนฉบับ จิ้มชี้เที่ยว
รวมหนังสือที่เขียน(ท่องเที่ยว+ภาษา)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]
ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
© สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ