วันอังคาร, ตุลาคม 02, 2555

เที่ยวนอก-เคล็ดลับนั่งแท็กซี่ Taxi ต่างแดน

บางแห่งก็ไม่มีแท็กซี่หรอก มีแต่สามล้อ ในภาพกำลังมุ่งหน้าจากเนปาล แถวใต้ลุมพินี จะไปชายแดนอินเดียครับ




โดย มารพิณ
ไป เฟซบุ๊ค   www.facebook.com/marnpinbook
ไป หน้ารวมข้อมูลเที่ยวนอก-แบคแพค





แท็กซี่

แท็กซี่คือพาหนะหลักของเราเวลาเดินทางจากสนามบินไปที่พัก หรือท่ารถประจำทางไปกลับที่พัก รวมทั้งเอาไว้เที่ยวในเมืองเวลาที่ต้องเร่งทำเวลา ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของเราที่สุดเวลาเดินทาง เพราะไม่แน่ใจว่าจะต้องไปที่ไหน ไม่รู้จักเมือง และมีกระเป๋าใบใหญ่ๆ ติดตัวเคลื่อนย้ายลำบาก

และแท็กซี่ก็รู้จุดอ่อนของเราดี และใช้ประโยชน์จากตรงนี้เต็มที่เหมือนกัน

แท็กซี่ยังมีโรคประจำตัวเหมือนกันทั่วโลก คือไม่ค่อยมีใครพกเงินทอนติดตัว ทำราวกับว่าเป็นคำปฏิญาณสากลของแท็กซี่โลกที่แท็กซี่ทุกชาติต้องปฏิบัติเหมือนกันอย่างเคร่งครัด ดังนั้นเวลาขึ้นแท็กซี่ให้เตรียมแบงก์ย่อยเอาไว้เสมอ แล้วถ้าไม่มีแบงก์ย่อยล่ะ ก็อย่าขึ้นแท็กซี่สิครับ ฟันธงเป็นคำตอบสุดท้าย!

แทกซี่ตามสนามบินทั่วโลกยังมีมุขเหมือนกันอีกอย่างคือ มักจะสอดรู้สอดเห็น ชอบถามเราว่ามาจากประเทศไหน พอบอกชื่อประเทศไป คุยกันซักพักรู้เรื่องมั่งไม่รู้มั่ง ก็จะหันมาถามว่า มีเศษเงินเศษเหรียญของประเทศยูติดมาบ้างมั้ย จะขอไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะ ไม่ต้องให้มันไปนะครับ มันมีช่องทางไปแลกอยู่ ไม่ใช่ที่ระลึกอะไรหรอก

อย่าไปเชื่อโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์ที่แท็กซี่แนะนำให้ไปพัก เพราะราคาที่พักของเราจะแพงกว่าเดิมเพราะเกสต์เฮาส์เราต้องจ่ายค่านายหน้าให้แท็กซี่คนที่พาเราไปด้วย

ถ้ากลัวแท็กซี่ขับอ้อม ให้ใช้มุขนี้ครับ ทำทีเป็นกางแผนที่ของเมืองนั้น (ถ้าเรามี) หรือหนังสือไกด์บุ๊ค มองซ้ายมองขวาตลอดทาง ชี้โน่นชี้นี่ พยายามอ่านชื่อถนน หรือชื่อร้านออกมาดังๆ ทำทีเหมือนสังเกต(ถึงแม้จริงๆ แล้วหลงอยู่ก็เถอะ) ทำให้แท็กซี่ระวังตัวไม่ขับอ้อมกินมิเตอร์เรา

ในหลายประเทศจะโบกมั่วแบบเมืองไทยไม่ได้นะครับ เขาจะต้องมีจุดจอดหรือจุดเรียกแท็กซี่โดยเฉพาะ อย่าไปงงว่าทำไมเขาไม่จอด หรือรับเราตรงนั้น

ตามเส้นทางแบ็คแพ็คเกอร์ เช่น จุดท่องเที่ยว หรือท่ารถประจำทาง ให้ลองมองหาเพื่อนแบ็คแพ็คเกอร์ด้วยกัน ถามว่าจะไปไหน ส่วนมากจะไปที่พักซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกัน ถามดูว่าอยากแชร์แท็กซี่กันมั้ยเพราะเราก็ไปแถวนั้นเหมือนกัน ซึ่งก็มักจะโอเคกัน เพราะตัวหารยิ่งเพิ่มค่ารถยิ่งถูกลง

ถ้าในประเทศที่ไม่มีมิเตอร์ เวลาต่อรองราคาแท็กซี่ ให้ลองต่อลงอย่างน้อยสี่สิบถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เอาไม่เอาก็ว่ากันไป ลองทำอย่างนี้อยู่หลายเที่ยว บวกกับคอยถามเพื่อนนักเดินทางคนอื่น เราจะพอเริ่มจับราคามาตรฐานตามระยะทางของแต่ละประเทศได้ แล้วมาปรับราคาที่เราต่อรองกับแท็กซี่อีกที เช่น ไอ้ที่เราต่อ 50 เปอร์เซ็นต์มันโหด มิน่าแท็กซี่ทุกรายส่ายหน้าเดินหนีกันหมด อาจต้องปรับลงมาต่อแค่ สามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นต้น

มีเคล็ดลับนิดนึง เวลาต่อรองราคาให้ดึงคนขับที่เราจะต่อราคาออกไปห่างจากเพื่อนคนขับอื่นๆ เพราะถ้าไอ้หมอนี่มันรับราคาต่ำไปตามที่เราต่อ ก็จะเสียฟอร์มในสายตาเพื่อนฝูง โดนเพื่อนกดดันว่างั้นเถอะ

สำหรับประเทศที่มีมิเตอร์ ให้ลองนั่งแท็กซี่มิเตอร์ดู สามสี่ครั้งก็จะเริ่มกะราคากะระยะทางคร่าวๆ ได้ พอเรากะได้แล้วเราจะประมาณได้ว่าค่าใช้จ่ายที่เหลือของทริปจะเป็นยังไงกันต่อไป

แนะอีกนิดว่าถ้าเราเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่เช่น หกหรือแปดคน แล้วต้องใช้แท็กซี่สองคัน ให้ตกลงกันให้ดีว่าต้องมีคนที่รู้ทาง มีแผนที่ และพูดภาษาอังกฤษได้ในแต่ละคัน อีกวิธีนึงคือซื้อซิมมือถือในประเทศนั้นมาใส่ มีมือถือประสานงานจะช่วยได้ เพราะถึงแท็กซี่ไปส่งที่หมายเดียวกันแต่ลงคนละจุด จะหากันเจอไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าไปกันหลายคน  เวลานั่งแท็กซี่พวกเราคนที่นั่งหน้าคู่คนขับจะเป็นคนถือแผนที่และตัดสินใจเส้นทาง
TIPs และเคล็ดลับ

+แท็กซี่บ้านเราราคาจัดว่าค่อนข้างถูกนะครับ มีหลายประเทศที่ค่ารถแพงกว่าเราเยอะ และยังจะเรียกร้องทิปอีก เรื่องทิปนี่ก็ว่ากันไปตามประเทศ สำหรับพวกเราที่เที่ยวกันแบบประหยัดงบ ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอที่รวยอะไรนักหนา ถ้าแท็กซี่มันไม่ขอก็ไม่ต้องให้ ถ้าจะให้ก็นิดหน่อยก็พอ แล้วดูด้วยว่ามันบริการดีหรือป่ะ ขับรถเฮงซวยก็ไม่ต้องให้

+เราต้องเลือกแท็กซี่ อย่าให้แท็กซี่เลือกเรา เลือกคันที่ไม่ได้เดินเข้ามาตื๊อเรา หรือรออย่างผิดสังเกตในจุดที่นักท่องเที่ยวเยอะ

+อย่าขึ้นแท็กซี่ป้ายดำ หรือแท็กซี่ที่มีรถเป็นหน้าตาแบบรถส่วนตัว ไม่มีป้ายแท็กซี่ หรือแต่งตัวไม่น่าไว้ใจ

+บางประเทศอย่างสิงคโปร์ ถ้าเป็นวันหยุด หรือดึกๆ ค่าโดยสารจะแพงกว่าปกติ เป็นกติกาของประเทศเขาเอง

+อย่าไปยุ่งกับรสนิยมเพลงของโชเฟอร์นะครับ เขาจะเปิดอะไรให้เราฟังก็ช่าง
+นับจำนวนกระเป๋าที่ถือมาจะได้ไม่ลืมเวลาลง

เอากล้องถ่ายรูปบัตรคนขับแท็กซี่เก็บไว้ได้วยเพื่อความไม่ประมาท แต่ในอีกด้านนึงก็ช่วยในเรื่องการตามของหายเวลาลืมของ ที่เห็นนี้คือแท็กซี่ฮ่องกงครับ จะมีป้า Taxi Driver Identity Plate
+ถ้าอยู่ประเทศนั้นหลายวัน หัดเรียนรู้ภาษาถิ่นคำว่า “ช้าๆ” “ซ้ายขวา” และ “จอด”
+อย่าขึ้นรถที่มีผู้โดยสารอื่นนั่งอยู่แล้ว หรือมีคนอื่นนอกเหนือจากคนขับนั่งอยู่
+ถ้าจะด่าคนขับ ให้รอถึงที่หมายก่อนแล้วค่อยด่า อย่าไปด่ากลางทาง
+บางประเทศเขามีกฎหมายกำหนดว่าแท็กซี่จะนั่งได้ไม่เกินกี่คน จะเอามาตรฐานคนไทยบอกว่าตัวเล็กขอนั่งเพิ่มไปอีกคนเขาไม่ยอมหรอก
+อย่าแปลกใจที่คนขับรถอินเดียจะบีบแตรไปตลอดทาง คาดว่าเวลาเขาสอบใบขับขี่คงมีสอบบีบแตรด้วยมั้ง



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ