วันจันทร์, ตุลาคม 01, 2555

ไปเที่ยวนอกต้องเปิดใจกว้าง อย่าเอามาตรฐานไทยไปตัดสิน


โดย มารพิณ
ไป เฟซบุ๊ค   www.facebook.com/marnpinbook
ไป หน้ารวมข้อมูลเที่ยวนอก-แบคแพค


บ้านเขาไม่เหมือนเมืองเรา

ใครที่ไม่เคยไปต่างประเทศ หรือที่เคยไปมานั้นไปกับทัวร์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยลูกทัวร์คนอื่น มีไกด์จัดแจงให้หมด เวลาได้ไปสัมผัสชีวิตจริงๆ อาจมีอาการ “มึนตึ้บ” กับเรื่องราวบางอย่างที่ไม่เคยพบเคยเจอแบบนี้ในบ้านเราเมืองเรา ผมจะลองยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟังกันนิดหน่อย

+คนขับรถบัสลาวแวะจอดซื้อปลาดุกข้างทาง หรือเคยเจอรถบัสไปหลวงน้ำทาที่ออกก่อนเวลาเกือบสองชั่วโมง ทั้งๆ ที่ผู้โดยสารขึ้นไม่เต็ม ถามว่าทำไมไม่รอ เขาก็บอกว่าคงไม่มีคนขึ้นอีกแล้ว(มั้ง) เจอแบบนี้ต้องทำความข้าใจครับ คอนเซ็ปต์เรื่องเวลาต่างกัน พวกเราเคยชินกับสังคมแข่งขันสมัยใหม่ที่เวลาเร่งร้อนทุกชั่วโมง ทุกนาที แต่ยังมีหลายที่ในโลกใบนี้ที่เวลาหยุดนิ่งครับ

+คนเวียดนามถามว่ามีเมียหรือแต่งงานหรือยัง เขาก็หมายความแค่นั้นครับ เป็นธรรมเนียมของบ้านเขา ถ้าตอบว่ามี เขาก็จะถามเราต่ออีกว่ามีลูกกี่คน ผู้ชายกี่คน ผู้หญิงกี่คน หรือไปประเทศอื่นก็อาจจะเจอการซักประวัติแบบนี้ นี่เขากำลังเป็นมิตรกับเรานะครับ ไม่ได้สอดรู้สอดเห็น

+ว่ากันว่า คนกวางตุ้งกินทุกอย่าง อย่าตกใจที่เห็นหมา แมว หรือแม้แต่สารพัดสัตว์อื่นมีวางขายตามตลาด ทั้งในแบบพร้อมทานและพร้อมเชือด  

คนจีนเองยังมีคำกล่าวที่พูดว่า อะไรที่มีสี่ขา คนกวางตุ้งกินหมดยกเว้นโต๊ะ   และอะไรที่บินได้ คนกวางตุ้งกินหมด ยกเว้นแต่เครื่องบิน 

+โจรอิตาลีคือสุดยอดของความพลิกแพลงในการหาทางฉกชิงกระเป๋าจากนักท่องเที่ยว อย่าคิดว่าประเทศเจริญแล้วจะปลอดภัยเสมอไป

+คนขับรถในอินเดียและในอีกหลายประเทศใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบีบแตร และใช้เวลาที่เหลืออีกแค่นิดหน่อยในการขับรถ

+อย่าไปมองว่าชาติอื่นเขากินอะไรกันแปลกๆ อย่างเรื่องข้าวสวยนี่ ขอบอกว่าฝรั่งบางคนที่เขาไม่เคยกินข้าว บอกว่าไม่ชอบเลยเพราะดูหน้าตาข้าวในถ้วยแล้วเหมือนหนอนตัวเล็กๆ

+อย่าแปลกใจที่คนจีนหลายคนไม่สนใจคนต่างชาติ ไม่แคร์คนต่างชาติ และไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนที่มาจากประเทศอื่นทั้งสิ้น อย่าไปงงด้วยว่าทำไมขนาดเมืองท่องเที่ยวติดอันดับของโลกยังหาคนพูดภาษาอังกฤษได้ยากจริงๆ

+ในเมืองใหญ่ๆ ของอเมริกา อย่าแปลกใจว่า ทำไมเราได้ยินเสียงหวอ ไซเรนดังเป็นระยะทั้งวัน และบางย่านที่ไม่ควรเข้าไปก็อย่าเข้าไปครับ เห็นในหนังฝรั่งเป็นยังไงก็โหดอย่างงั้นล่ะ

+ห้องน้ำเมืองจีน ในย่านที่ไม่ใช่สำหรับนักท่องเที่ยวจะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เคยเจอมาก่อนสำหรับหลายคน ทั้งกลิ่น เสียง ภาพ เร้าทุกประสาทสัมผัสแบบชนิดที่ว่าไม่มีอะไรมาขวางกั้น เพราะแม้แต่ประตูก็ยังไม่มี

+ผู้ชายอาหรับจะหอมแก้มกัน หรือยื่นหน้าคุยกันใกล้มากเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ไม่ใช่เกย์หรืออะไรทั้งสิ้น อย่าไปคิดมาก

+เห็นคนฮ่องกงกำลังตะโกนใส่กัน อย่าเพิ่งคิดว่าเขากำลังทะเลาะกัน บางทีนั่นเขากำลังคุยกันธรรมดาๆ

ยารักษาอาการแบบที่ว่านี้มีขนานเดียวคือ  ต้องเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ และกล้าทดลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 

 อย่าเพิ่งรีบเหมารวมว่า คนประเทศนั้นเป็นอย่างงี้ทุกคนเสมอไป ในประเทศที่ใหญ่มากอย่าง จีน หรืออินเดีย แต่ละเมืองแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันมาก อย่าว่าแต่เหมือนอยู่คนละประเทศเลย เหมือนอยู่กันคนละโลกด้วยซ้ำ

อย่าเอามาตรฐานของคนไทยไปตัดสินในทุกเรื่องราว แต่ละชาติแต่ละสังคมเขาก็มีมาตรฐานของตัวเอง การเดินทางมันก็ดีอย่างงี้ล่ะ ทำให้เราเปิดหูเปิดตาได้เห็นชีวิตผู้คนในแบบที่เป็นตัวตนของเขาจริงๆ

ปิดท้ายว่า เราในฐานะผู้มาเยือนต้องเคารพ ธรรมเนียมวัฒนธรรมของประเทศที่เราไปด้วย ผมเคยเห็นคนไทยหลายคนที่แสดงความโกรธแค้นที่เห็นภาพฝรั่งขี่คอพระพุทธรูป แต่พอเวลาไปประเทศอื่นก็ทำแบบเดียวกันกับสิ่งเคารพทางวัฒนธรรมอื่นๆ ของประเทศเขา

อย่าลืมให้เอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยนะครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ