วันอาทิตย์, มิถุนายน 27, 2553

เหงามือ- เรียนอังกฤษจากข่าวกันเถอะ

โดย มารพิณ 

* เรื่องนี้เขียนขึ้นหลังจาก ไดอารี่ฮับดอทคอม เลิกกิจการเนื่องจากหุ้นส่วนเขาเกิดขัดแย้งกันด้วยสาเหตุต่างๆ นานา และเว็บก็เลิกทำไปอย่างน่าเสียดาย และตอนนั้นย้ายไปอยู่ที่ www.exteen.com 

อยู่นี่มาหลายวันชักเหงา เกามืออยู่นานเลยคิดว่าเขียนไปพลาง ๆ ดีกว่า เพราะไหน ๆ พวกที่ตามอ่านไดเราก็ย้ายโขยงมาอยู่แถวนี้กัน (หรือว่า ย้ายโขลงแฮะ) เอาเลยก็แล้วกัน วันนี้เขียนเยอะครับ ไม่รู้ว่าข่าวมีภาษาน่าสนใจ หรือเพราะไม่ได้เขียนมาหลายวัน ก็ไม่รู้ ใครใน www.exteen.com ไม่เคยอ่านก็ลอง ๆ ดูครับ ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศก็แล้วกัน ทน ๆ ผมหน่อยก็แล้วกัน


Girls and young women who regularly ate breakfast, particularly one that includes cereal, were generally slimmer than those who skipped it, according to a study that tracked almost 2,400 people for 10 years.

ผลการศึกษาที่เฝ้าติดตามผู้คนเกือบ 2400 รายเป็นเวลา 10 ปี พบว่า เด็กสาวและหญิงสาวอายุน้อยที่ทานอาหารเช้าเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายที่ทานอาหารธัญญพืชด้วย โดยทั่วไปจะผอมกว่าพวกที่ไม่ทานเลย

ศัพท์อังกฤษที่ควรทราบ

Girls ก็เด็กสาว บางทีก็ใช้หมายถึง "สาว ๆ " ไม่ได้หมายถึงแต่เด็กเสมอไป เหมือนภาษาไทยที่บางทีก็เรียก "เด็ก" แต่ไอ้เด็กที่ว่านี่บางทีก็ม่ายช่ายเด็กซักหน่อย แต่ในที่นี้เขาใช้รวมกับ young women ก็เพื่อให้แบ่งแยกชัดว่า หมายถึงราว ๆ เด็กสาวไล่มาจนถึงประมาณวัยรุ่นกระมังครับ ส่วน young womenก็คือเป็นสาวเต็มตัวแล้วแต่ก็ยังอายุน้อยอยู่

regularly คือเป็นประจำ เป็นกิจวัตรสม่ำเสมอ

breakfast คืออาหารเช้า นั่นเอง แต่เคยคิดมั้ยครับว่าเขานี่มาจากไหน ลองแยกคำดูจะเจออะไรน่าสนใจคือ break+fast คำ break ก็คือ แยก แตก ใช้กับของ ใช้กับการกระทำคือ แยก หรือเลิก ส่วนเจ้า fastเนี่ย น่าสนใจมั๊ก ๆ เพราะเหตุว่าเราจะคุ้นกับคำว่าเร็วมากกว่าความหมายอื่น คำว่า fast ที่ใช้ในคำว่า Fasting ในภาษาอังกฤษมีความหมายที่ไม่พบบ่อยอีกอย่างหนึ่งคือ "อด" เป็นการอดแบบที่มีกิน จะกินก้ได้ แต่ไม่กิน เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่นศาสนา ซึ่งต่างจาก famine ที่หมายถึง ภาวะอดอยาก อย่างที่หลายประเทศในอัฟริกาเคยเจอะเจอมา จนเกิด starvation คืออดตาย

คำว่า breakfastก็เลยมีผู้ชี้ว่า คือ มื้อแรกของวันที่เลิกอด คือนอนมาทั้งคืนไม่ได้กินอะไร ก็เลิกอด คือ breakfast นั่นล่ะ อันนี้จะจริงแค่ไหนก็ช่างเถอะ แต่ถ้าเรารู้ตรงนี้แล้วจำคำว่า fasting อีกคำในความหมายของการอด นี่ก็ไม่เลวเลย ใช่มีะ

particularly one โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ คำว่า one นี่ก็ใช้แทน Girls and young women นั่นเอง ฝรั่งชอบใช้ไอ้ one นี่มาก ๆ ไม่รู้มันเป็นอะไรของมัน this one - that one เล่นเอาพวกเราปวดหัว แถมครูก็ชอบออกข้อสอบเสียด้วย

cereal อาหารซีเรียล คำว่า cerealจริง ๆ หมายถึงพวกธัญพืชทั้งหลาย แต่พวกอเมริกันจะใช้เรียกอาหารเช้าพวก breakfast cerealที่เป็นกล่อง ๆ อย่างที่เราเห็นตามซูเปอร์มาร์เก็ตยี่ห้อต่าง ๆ เวลากินก็เติมนม น้ำผลไม้ลงไป ส่วนใหญ่จะนมมากกว่า

ไอ้ที่รู้จักกันดีคือ Corn flakesคำว่า Cornก็คือ ข้าวโพด ที่มะกันเรียกกัน และ flakesคือเกล็ดเล็ก ๆ เช่น snowflakes คือเกล็ดหิมะ ก็หมายถึงแป้งที่ทำมาจากข้าวโพด อบเกล็ดเล้ก ๆ กรอบ ๆ กินกะนม (ข้าวโพดเนี่ย มีคำเรียกอีกคำคือ maizeที่จะเห็นตามกล่องแป้งข้าวโพดบางยี่ห้อ)

generally โดยทั่วไป แหมวันนี้ผมเลือกข่าวมาได้เหมาะเหม็งมาก เพราะเจอทั้ง ....regularly ate breakfast, particularly one that includes cereal, were generally slimmer than..... เรียงหน้ากันมาสลอน คำพวกนี้เจอบ่อยครับควรบันทึกเอาไว้

slimmer คำว่า slim ก็คือผอม พอเป้น slimmer ก็คือผอมกว่า สังเกตว่าฝรั่งเวลามันใช้ดันไปแอบเต็ม m เพิ่มมาอีกตัว เพราะไม่งั้นมันออกเสียงไม่คล่องปาก ก็ออกเสียง slim+er คือ slimer มันจะเป็นสไลเมอร์ สลีเมอร์ ไม่คล่องเลยว่ะ งั้น เติม m เป็น slimmer เสียเลยจะได้ออกเสียงได้ชื่นปากชื่นคอมาหน่อย (พวก shorter เตี้ยกว่า สั้นกว่า หรือ taller สูงกว่า ไม่เห็นต้องเติมอะไรเพิ่มเพราะเสียงมันได้อยู่แล้ว)

ผมว่าของผมอย่างนี้นะ แต่พวกบ้าแกรมมาร์อาจเถียงผมอีกอย่าง นั่นก็เรื่องของเขา ผมว่าภาษามาจากคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนกลุ่มเล็ก ๆ มากำหนดกติกาภาษา

อ้อ สังเกตนิดว่า พวก เอ้อๆ เม่อ ๆ ที่มากับ แสดงว่า สูงกว่า ผอมกว่า เตี้ยกว่า จะต้องมี thanตามมาด้วย เสมอ ๆ

skipped ก็มาจาก skip หมายถึงข้าม ละไว้ ละเว้น ไม่เอา ไอ้นี่ก็เหมือนกัน พอเติม -ed แล้วดันมี p โผล่มาจากไหนไม่ทราบอีกตัวนึง ผมก็ว่าเรื่องเสียงนั่นล่ะ คือ แกรมมาร์ หรือไวยากรณ์ ที่เขาตั้งมาน่าปวดหัวจำไม่ไหวนั้น มาจากความจริงที่ว่ามันออกเสียงลำบากเด๋วเพี้ยน อย่าง hop - hop + ped = hopped และ skip - skip + ped = skippedม่ายงั้นมันจะกลายเป็น สกีเป็ดไป เสีย

ผมว่าอธิบายเหตุผลที่มาดีๆ น่าจะเป็นการเรียนไวยากรณ์ที่สร้างสรรค์กว่าครับ  ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ท่องมันตะบี้ตะบันไหแตกไปหมด

according to a study ตามผลการศึกษา อ่านข่าวจำท่อนประโยคนี้ไว้เลย ข่าวงานวิจัยสุขภาพทั้งหลายใช้ไอ้นี่ทั้งนั้น

track ตามรอย ติดตาม ใช้เป้นคำนามคือ เส้นทาง ทางเดินเล็ก ๆ


 รวมลิงก์หนังสือมารพิณ

มีอะไรก็คอมเมนท์มาได้ นะครับ.... ใครมีความรู้เพิ่มเติมก็มาแชร์กัน ผมไม่ได้เก่งอะไรมากมาย ยังไงฝากบอกแนะนำลิงก์ของบล็อก feelthai.blogspot.com ต่อเพื่อนๆ ด้วย
แต่ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามภาษาอังกฤา หรือแก้ปัญหาการบ้านภาษาอังกฤษนะครับ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ
 (English for learners - blog)