มาต่อกันเรื่องการแสดงความเสียใจเวลาใครตายครับ อันนี้ต่อมาจากตอนที่แล้ว ใครยังไม่ได้อ่านก็ต้องย้อนกลับไปอ่านนะครับผม
ความตายเป็นเรื่องธรรมดา ครับ ทุกคนล้วนแต่มีเกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น ทั้งปวง เหลือไว้แต่ศัพท์สำนวนเหลือให้เรียนรู้กันครับ
“I am deeply sorry for your loss. I understand the emotions as my father passed at age 59, suddenly, of a heart attack. May the memories dry your tears and may time ease your pain. God’s blessings to your family.”
ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการสูญเสียที่คุณได้รับ ผมเข้าใจถึงอารมณ์ความรู้สึกนี้ได้ดี เพราะคุณพ่อของผมท่านก็มาเสียอย่างกระทันหัน ด้วยวัย 59 ปี จากโรคหัวใจวาย ขอให้ความทรงจำต่าง ๆ ที่มีได้ช่วยซับน้ำตา และให้วันเวลาผ่อนคลายความเจ็บปวดให้เบาบาง ขอให้พระเจ้าอำนวยพรแก่ครอบครัวคุณ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ควรทราบ
I am deeply sorry for your loss. ก็แปลว่า "ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการสูญเสียที่คุณได้รับ" จำเพิ่มอีกอันครับ นึกอะไรไม่ออกก็พูดคำนี้ออกไป
my father passed at age 59 นี่ก็เป็นท่อนประโยคที่น่าสนใจครับ ภาษาอังกฤษในโรงเรียนเขาสอนพวกคุณมาแค่พวกคำทักทาย แต่ผมสอนลึกถึงขั้นว่า พ่อใครตายจะอธิบายได้อย่างไร เห็นหรือยังว่าต่างกันตรงไหน
heart attack แปลว่า หัวใจวาย ถ้าแปลตามตัวในภาษาฝรั่งจะหมายถึง “การโจมตีหัวใจ” ก็ให้ภาพพจน์ชัดเจนไปอีกแบบครับ
เตือนนิดเวลาจะเขียนคำว่า heart อย่าเผลอไปเติม h ไปเป็น hearth เชียวล่ะ มันจะหมายถึง เตาผิง เตาไฟกลางบ้านฝรั่ง ผมเคยปล่อยไก่เรื่องนี้มาแล้วตอนสมัยเรียนภาษาอังกฤษกับดร.สรจักร ที่ธรรมศาสตร์ ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นผู้อำนวยการ อสมท. หรอกครับ พอปล่อยไก่ไปแล้วก็จำฟังใจเลย
May the memories dry your tears and may time ease your pain ความหมายก็คือ "ขอให้ความทรงจำต่าง ๆ ที่มีได้ช่วยซับน้ำตา และให้วันเวลาผ่อนคลายความเจ็บปวดให้เบาบางลง"
สำนวนพวกนี้ไม่ต้องอธิบายเลยครับ ซึ้งและใช้ได้กับทุกรูปแบบของการตาย ขอให้เป็นฝรั่งตายเถอะใช้ได้ทั้งนั้น
แล้วพบกันใหม่ครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มีอะไรก็คอมเมนท์มาได้ นะครับ.... ใครมีความรู้เพิ่มเติมก็มาแชร์กัน ผมไม่ได้เก่งอะไรมากมาย ยังไงฝากบอกแนะนำลิงก์ของบล็อก feelthai.blogspot.com ต่อเพื่อนๆ ด้วย
แต่ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามภาษาอังกฤา หรือแก้ปัญหาการบ้านภาษาอังกฤษนะครับ
© สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ
(English for learners - blog)